Kikuo Ibe (คิคุโอะ อิเบ) ผู้ก่อตั้ง G-SHOCK และนักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลกกาลเวลา เขาคือผู้ที่คิดค้น และต้องการประดิษฐ์ "นาฬิกาที่ไม่พังแม้จะทำตก" ซึ่งแน่นอนว่ากระบวนการการทดลองในการสร้างนาฬิกาในฝันของเขาคือ การโยนนาฬิกาจากตึกสูงเรือนแล้ว เรือนเล่า จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้แรงบันดาลใจจากการเห็นเด็กผู้หญิงเล่นลูกบอลยาง จึงเป็นที่มาของการออกแบบโครงสร้างนาฬิกาแบบใหม่ ที่มีโครงสร้างตัวกลไกและฟันเฟืองต่างๆ แบบลอยตัว เพื่อลดแรงกระแทก เพิ่มความต้านทาน จนกลายมาเป็นเอกลักษณ์และเป็นหัวใจหลักแห่งความแข็งแกร่งของ G-SHOCK DNA
เราได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมงาน Platform 66 สตรีทเฟสติวัลครั้งแรกของประเทศไทยที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน และ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งภายในงานคุณ Kikuo Ibe ก็ได้มาร่วมเปิดตัว G-SHOCK Metal Face GM-5600 หน้าเหลี่ยม พร้อมพูดคุยถึงแรงบันดาลใจของนาฬิกา และเอกลักษณ์ความเป็น ORIGINS ของ G-SHOCK โดยทาง #CheezeLooker เองก็ได้เข้าร่วมสัมภาษณ์ และพูดคุยกับคุณอิเบ บิดาแห่งนาฬิกา G-SHOCK อย่างใกล้ชิด และเป็นกันเองสุดๆ...
ความเป็นมาของ G-SHOCK Metal Face GM-5600Kikuo Ibe: นาฬิกา
G-SHOCK รุ่นแรกคือรุ่น
DW-5600 ซึ่งหน้าปัดที่เป็น Original Design รุ่นนี้จะเป็นสี่เหลี่ยม เราก็ได้นำเอาดีไซน์หน้าปัดแบบ Original มาทำเป็นตัวรุ่น
GM-5600 โดยที่เราเป็นความเป็นเมทัล เข้าไปที่หน้าปัดนาฬิกา ซึ่งผมคิดว่าจากดีไซน์ Original ที่เป็นเรซิ่นทั้งหมด การเพิ่มกรอบโลหะเข้าไป ก็เพิ่มความ Luxury มากขึ้น ดูเรียบหรู และสามารถขยายวงกว้างของแฟนๆ ได้มากขึ้นด้วย
พูดถึงการขยายกลุ่มแฟนๆ การที่เปลี่ยนจากสไตล์ที่เป็นเรซิ่น มาเป็นเมทัล แปลว่าทาง G-SHOCK อยากจะขยายทาร์เก็ตที่เป็น Upmarket มากขึ้นหรือเปล่าKikuo Ibe: ผมคิดว่าก็อยากจะขยายแฟนในสองรูปแบบ รูปแบบแรกก็จะเป็นกลุ่มที่ดู Luxury มากขึ้นนิดหน่อย ส่วนอีกกลุ่มก็คือ แฟนๆ ที่อยู่ในวงการ Streetwear อยู่แล้ว ที่อยากจะเพิ่มความเรียบหรูให้กับลุค Casual ของตัวเอง ก็สามารถเปลี่ยนสไตล์มาใส่แบบนี้ได้ด้วย ก็คือขยายแฟนทั้งสองแบบเลย
ถ้าพูดถึงเรื่อง innovation มีอะไรที่คุณอยากจะเอามาใส่ในนาฬิกาที่ตอนนี้ G-SHOCK ยังพัฒนาอยู่Kikuo Ibe: ตอนนี้ที่มีนำเข้ามาใช้แล้ว ก็จะเกี่ยวเนื่องกับสมาร์ทโฟนหรืออะไรต่างๆ แต่ต่อจากนี้ไปผมก็อยากจะต่อยอดในเรื่องของการที่นำมาใช้แล้วได้รับความสนุกสนาน หรือได้รับความสะดวกสบายในชีวิต อะไรที่ทำให้การใช้ชีวิตเราง่ายขึ้น ผมก็อยากจะนำมาใส่ในนาฬิกาด้วย
คุณมีนาฬิกา G-SHOCK ในครอบครองทั้งหมดกี่เรือน?Kikuo Ibe: คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าผมจะต้องมีโชว์รูมนาฬิกาอยู่ที่บ้าน แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ผมมี
G-SHOCK แค่ 3 เรือนเท่านั้น ซึ่งทั้ง 3 เรือนเป็นรุ่น
DW-5600 ทั้งหมด จะมีอยู่ 3 สี ก็คือ สีดำ สีแดง และสีขาว ซึ่งผมจะเปลี่ยนนาฬิกาตามฤดูกาล สีดำสำหรับใส่ตอนฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้ร่วง สีแดงใส่ตอนฤดูหนาว และสีขาวสำหรับฤดูร้อน พอถึงเวลาเปลี่ยนฤดูปุ๊บ ผมก็จะเปลี่ยนนาฬิกา ผมใช้หลักการง่ายๆ แบบนี้เลย
คุณมีเรื่องเล่า หรือความประทับใจอะไรที่เคยได้รับมาจากแฟนๆ G-SHOCK บ้างไหมKikuo Ibe: ผมมีสามเรื่องที่ประทับใจ และอยากจะเล่าให้ฟัง เรื่องแรกคือมีแฟนคนญี่ปุ่นคนนึง อันนี้เป็นเรื่องที่ผมตกใจ เพราะเค้าคือนักสะสมชาวญี่ปุ่นที่มี
G-SHOCK ทั้งหมด 2,000 เรือนเท่าที่เคยเจอมา ผมไม่เคยรู้ว่ามีแฟนคนไหนที่สะสมในจำนวนมากขนาดนี้มาก่อนเลย ส่วนอีกเรื่องก็เป็นเรื่องที่ตกใจเหมือนกัน คือเป็นแฟน
G-SHOCK ที่อายุน้อยที่สุด ก็คือสองขวบเท่านั้น ตอนที่ผมไปทัวร์ที่ฟิลิปปินส์ ก็มีคุณแม่พาลูกอายุสองขวบมาหาผม แล้วบอกว่าเค้าทั้งสองคนเป็นแฟนพันธุ์แท้ที่รัก
G-SHOCK มาก ผมก็เลยถามว่า แต่เด็กอายุสองขวบเนี้ยยังใส่นาฬิกา
G-SHOCK ไม่ได้เลยนะ ทำไมถึงเป็นแฟนได้ เค้าบอกว่าเอามาให้เด็กกัดตอนที่ฟันขึ้น ซึ่ง
G-SHOCK มันแข็งแรงพอที่จะรองรับให้เด็กกัดตอนที่เค้าเหมือนแบบคันที่ฟันจะขึ้นได้ ก็เลยชอบมาก ไม่มีนาฬิกาอันไหนที่ทำแบบนี้ได้ ก็เลยเป็นแฟนทั้งแม่และลูก ส่วนเรื่องสุดท้ายที่อยากจะเล่าให้ฟัง ก็คือเป็นที่มาจากนิวยอร์ก คือตอนที่ไปทัวร์ แฟนคนนี้ก็เดินเข้ามาแล้วก็เปิดข้อมือให้แล้วบอกว่า ช่วยเซ็นชื่อตรงข้อมือให้หน่อย ผมก็คิดว่าแปลกดี แล้วก็เซ็นไป 2 ชั่วโมงให้หลัง เค้าเดินมาหาผม แล้วให้ผมดูว่าเค้าไปสักลายเซ็นของผมลงในข้อมือตัวเอง ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีแฟนที่คลั่งไคล้ผมมากขนาดนี้ เค้าเป็นคนที่ตัวใหญ่มาก ผมจำแม่นเลย
ตอนนี้ยังมีแบรนด์หรือสินค้าตัวไหนที่ G-SHOCK อยากจะ Collaborate ด้วยบ้างไหม Kikuo Ibe: ส่วนใหญ่แล้วการที่จะ Collaborate กับแบรนด์ไหน เราจะมองว่าให้มัน Collaborate แล้วเกิดเป็นความ Win/Win ตอนนี้ก็ยังอยากที่จะค้นหาแบรนด์ที่มาร่วมงานกันแล้วได้รับความนิยม หรือเกิดปรากฏการณ์อะไรบางอย่าง ในประเทศไทยก็ด้วย ตอนนี้ก็ยังดูๆ อยู่
ลองไป Collab กับสินค้าของเด็กดูมั้ย อย่างเช่นยางกัดอะไรพวกนั้น?Kikuo Ibe: ฮ่าๆๆ เป็นไอเดียที่ดีมากๆ เลย ตอนแรกคิดไม่ออก ตอนนี้ได้หนึ่งไอเดียละ!
คำถามสุดท้าย...ถ้าให้คุณออกแบบ G-SHOCK ที่ Represent ความเป็นไทยมากที่สุด คุณคิดว่าจะใช้วัสดุ หรือลวดลายอะไรKikuo Ibe: ทุกครั้งที่มาที่เมืองไทย สิ่งที่ผมรู้สึกได้ก็คือ คนไทยเป็นคนที่ใจดี และร่าเริง ถ้าเอาไปทำเป็นสี ก็คงจะเป็นสีที่สดใส สีแบบพวกเม็ดยาวิตามินอะไรพวกนั้น แล้วอันดับสองที่คิดขึ้นมาเลย คืออาหาร อาหารไทยอร่อย แล้วก็มีวัตถุดิบหลายอย่างที่เรียกได้ว่าเป็นที่นิยมของคนญี่ปุ่น อย่างเช่นผักชี อาจจะนำตรงนี้มาเป็นตัวของโมทีฟ ใส่ลายเข้าไปที่สายประมาณนั้น แล้วก็ดีไซน์สุดท้ายที่อยากจะใส่เข้าไป ก็อาจจะเป็นด้านหลังของนาฬิกา ผมอยากจะใส่ความเป็นไทยที่แสดงถึงการเป็นคนที่ยิ้มแย้ม ก็อาจจะเป็นรูปผู้หญิง กับผู้ชายที่กำลังยิ้มอยู่ ใส่เข้าไปข้างหลังของนาฬิกา แสดงถึงประเทศไทยว่าเป็นประเทศที่ร่าเริง แล้วก็สดใส คิดว่าจะขายได้ไหม ฮ่าๆๆ
ทางเราซื้อแน่นอนเลยล่ะ!!!Kikuo Ibe: ขอบคุณมากเลย อุ่นใจละ ฮ่าๆๆ
สำหรับผู้ที่สนใจนาฬิกา GM-5600 รุ่น Metal Face หรือนาฬิกา G-SHOCK รุ่นอื่น ๆ สามารถเยี่ยมชมได้ที่ร้านเคาน์เตอร์นาฬิกา และช็อปของ Casio ทั่วประเทศ หรือรับข่าวสาร และโปรโมชั่นเพิ่มเติมผ่านทางเว็บไซต์ http://bit.ly/CASIO-CTWWatchExpo19 และ Facebook: Casio Watches Thailand
#CheezeLooker #SpecialInterview #GSHOCKMetalFace #CasioCMG