HOLLYWOOD อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อเชื้อชาติ สีผิว และเรื่องเพศกลายเป็นอุปสรรคในการทำตามความฝัน!

#WatchList มินิซีรีส์แด่คนมีฝัน ตีแผ่เบื้องหลังวงการภาพยนตร์ในช่วงยุค 40S

Story by : Saruya V.

02.07.2021

2666

"I WANT TO GO TO DREAMLAND"

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่มีความฝันอยากเป็น Star หรือนักแสดงที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก “Hollywood” คงเป็นหนึ่งในลิสต์สถานที่ในฝัน ที่ขอแค่ได้ก้าวเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์กลางแห่งประวัติศาสตร์ในโลกภาพยนตร์นั้นก็เพียงพอแล้ว!

และในครั้งนี้ CheezeLooker จะขอพาทุกคนไปทัวร์ และทำความรู้จักกับ Hollywood ซึ่งเป็นศูนย์กลางของโรงถ่ายภาพยนตร์ และนักแสดงที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกในรูปแบบของ Mini Series ที่มีเพียง 7 ตอนเท่านั้น และที่สำคัญคุณยังสามารถรับชมเรื่องนี้ได้ทาง Netflix อีกด้วย

ถ้าพร้อมแล้วมาลองทำความรู้จักกับ Hollywood ในมุมมองของ #CheezeLooker กัน

.
.
.

เรื่องย่อ

อีกหนึ่งผลงานอันยอดเยี่ยมจากฝีมือผู้กำกับอย่าง Ryan Murphy ที่เคยฝากผลงานซีรีส์ และภาพยนตร์ ทั้ง Eat Pray Love, Glee และ American Horror Story ที่เป็นหนึ่งในลิสต์โปรดของใครหลายๆ คน และเค้ากลับมาอีกครั้งในผลงาน Mini Series อย่าง Hollywood ที่ว่าด้วยเรื่องราวหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือช่วงยุค 40s ซึ่งถือเป็น Golden Age ของ Hollywood ที่ทุกคนต่างพากันเข้ามาตามหาความฝันที่จะได้เป็นหนึ่งในนักแสดงแถวหน้าของวงการ พร้อมทั้งตีแผ่เบื้องหลังการผลิตภาพยนตร์ที่กว่าจะได้รับการยอมรับ และสามารถฉายได้ทั่วทุกโรงทั่วประเทศนั้น มีขั้นตอน และอุปสรรคอะไรบ้าง

.
.
.

ความรู้สึกหลังดูจบ

- สิ่งที่ชอบที่สุดขอยกให้กับฝ่าย Costume Design เพราะมันดีงามมาก ทั้งสีสันและความสนุกที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของยุค 40s ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่วงการภาพยนตร์ได้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง โดยเฉพาะเสื้อผ้าสำหรับคาแรคเตอร์ที่เป็นผู้หญิงในเรื่องนี้ คือ เพอร์เฟคต์ทุกชุดจนอยากมีไว้ติดตู้เสื้อผ้าบ้าง ส่วนเสื้อผ้าในส่วนของผู้ชาย ต้องบอกเลยว่าคัตติ้งดี หล่อเนี้ยบตั้งแต่ลุค Casual ไปจนถึง Gentleman มันดีงามจนไม่อาจละสายตาเลยทีเดียว

.
.
.

- ชอบการหยิบประเด็นเรื่องของเชื้อชาติ สีผิว ซึ่งในยุคนั้นยังไม่ได้รับการยอมรับในวงกว้างของอเมริกา มาบดขยี้ได้อย่างน่ารัก และนุ่มนวล แถมยังให้แง่คิดแก่คนเหล่านี้ ให้ต่อสู้เพื่อให้ได้การยอมรับในฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่ไม่ว่าจะมีสีผิวโทนไหน หรือมีเชื้อชาติอะไร ก็มีสิทธิเท่ากับคนอื่นๆ ในด้านการทำตามความฝัน ว่าไม่ควรยอมแพ้ และหยุดอยู่กับที่ เพียงเพราะว่าถูกกีดกันจากสังคมด้วยความเชื่อที่ว่า การเป็นคนผิวสี เป็นคนยิว หรือเอเชียนั้นไม่สามารถมีบทบาทที่เหนือกว่าคนผิวขาวอย่างอเมริกันได้

.
.
.

- ซีรีส์เรื่องนี้เป็นเหมือนการพาทัวร์โลก Hollywood ที่จะทำให้คุณได้รู้เรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับโลกภาพยนตร์ ทั้งในฝั่ง Production อย่างสตูดิโอที่สร้างภาพยนตร์ โดยการพาไปสำรวจขั้นตอนคร่าวๆ ของการสร้างภาพยนตร์สักหนึ่งเรื่อง ว่าต้องทำอะไร และต้องพบเจออะไรบ้างกว่าจะออกมาเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับการฉายไปทั่วประเทศ รวมไปถึงทางฝั่งของนักแสดงที่มีตั้งแต่การคัดตัว การฝึกซ้อมท่องบท การทำ Screen Test ไล่ยาวไปจนถึงการเข้าหาผู้มีอำนาจที่จะช่วยให้คุณได้รับบทนำในภาพยนตร์เรื่องนั้น เพราะการมีแค่ทักษะการแสดงที่โดดเด่นเพียงอย่างเดียวนั้นไม่พอ ต้องมีเรื่องของพรรคพวก และเส้นสายเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งด้วยเสมอ!

.
.
.

- นี่เป็น Mini Series ที่หยิบประเด็นเรื่อง LGBT มานำเสนอในรูปแบบที่ละมุน และน่ารักมาก แบบดูได้เพลิน แถมยิ้มตามตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งจริงๆ แล้วในยุคนั้นยังเป็นยุคที่การเปิดเผยว่าตัวเองเป็น LGBT นั้น ยังเป็นสิ่งที่สังคมยังไม่ให้การยอมรับ ซึ่งนั่นหมายความว่า หากคุณออกมายอมรับ หรือเปิดตัวว่าเป็น LGBT คุณจะถูกสังคมรังเกียจ และถูกปฏิบัติในรูปแบบที่เลวร้ายแบบสุดๆ แต่เรื่องนี้กลับนำเสนอแง่มุมดีๆ ของความรักที่ไม่ว่าสังคมจะบอกว่าอย่างไร คุณก็ไม่แคร์ แค่ได้เป็นตัวเอง และมีความสุขกับสิ่งที่ทำโดยไม่ทำร้ายใคร แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว

.
.
.

- สำหรับซีรีส์เรื่องนี้มันกลับทำให้เราอิ่มเอมไปกับรูปแบบของความรักที่ไม่ตายตัว โดยเฉพาะความรักสุดซึ้งของ LGBT รวมไปถึงการเจอรักแท้ในช่วงสุดท้ายของชีวิต ที่ถึงแม้ว่าเราอาจจะเจอมันช้า แต่ถ้าคุณรู้ว่ามันใช่ ก็ไม่ควรปล่อยมือจากมัน ไม่ว่าผลสุดท้ายมันจะเป็นยังไง จงใช้ทุกวินาทีที่มีอยู่ให้คุ้มค่าที่สุด แหละซีรีส์เรื่องนี้คือแหล่งรวมความรักของคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกชนชั้น ทุกครอบครัว และมันทำให้เราหัวเราะทั้งน้ำตาได้อย่างบ้าคลั่ง

.
.
.

- เหมาะสำหรับทุกคนที่มีความฝัน และพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ฝันนั้นเป็นจริง ไม่ว่าอุปสรรคที่พบเจอจะหนักหนาสาหัสแค่ไหน ถ้าวั้นนั้นคุณเลือกที่จะไม่ยอมแพ้ โอกาสก็ยังเป็นของคุณเสมอ แต่ถ้าหากคุณล้ม และมันเจ็บเกินกว่าที่จะลุกขึ้นสู้อีกครั้ง เปอร์เซนต์ความสำเร็จจะกลายเป็นศูนย์ทันที ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับคุณว่ากล้าพอที่จะยอมทิ้ง “ความฝันสูงสุด” ของตัวเองมั้ย เพราะ “โอกาสที่ดี” ไม่ได้มีเข้ามาง่ายๆ เพียงแค่ดีดนิ้ว