#TB รวบรวมความทรงจำครั้งใหม่ของเหล่า WONDERER ในงาน “WONDERFRUIT 2022”

อิ่มความสุขแบบไม่พักตลอด 4 วัน 4 คืน!
18.01.2023
5691
Shares
นับเป็นครั้งที่ 7 ของการจัดงาน Wonderfruit หลังหยุดพักไปถึงสองปี จากสถานการณ์ COVID-19... 

และแล้ว Wonderfruit ก็หวนกลับคืนสู่ The Field อีกครั้งในปี 2022 ตามปณิธานในการมุ่งสร้างสรรค์โซลูชันใหม่ๆ ที่เปี่ยมด้วยความหมาย ผ่านการค้นพบ แลกเปลี่ยน เรียนรู้วัฒนธรรมและความแตกต่างจากทั่วทุกมุมโลก โดยทีมผู้จัดยังคงเดินหน้าเป็นแพลตฟอร์มที่รวบรวมเอาศิลปิน บุคคลที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านต่างๆ มาแบ่งปันองค์ความรู้ ถ่ายทอดแนวคิด พูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนและริเริ่มไอเดียต่างๆ โดยมุ่งเน้นความยั่งยืน การรวมเอาทุกสรรพสิ่งเข้าไว้ด้วยกัน 






ในส่วนของไฮไลต์ของงานครั้งนี้ มีสิ่งที่น่าสนใจเพียบ
! ถ้าพร้อมแล้ว เริ่มออกเดินทางย้อนเวลาไปพร้อมกันเลย!!!

Wonderfruit
ครั้งที่ 7 กลับมาพร้อมกับแนวคิด ในการสนับสนุนให้ทุกคนสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างจิตใจ ภายในของตนเองกับธรรมชาติ (Develop a relationship between mind and nature) ซึ่งเป็นรากฐานของทุกสิ่ง 

งาน Wonderfruit ยังคงเน้น 6 เสาหลักสำคัญ อันประกอบด้วย ศิลปะและสถาปัตยกรรม อาหาร ดนตรี 

ทอล์กและเวิร์คช็อป สุขภาพ
 และ ครอบครัว เสาหลักที่จะช่วยสร้างประสบการณ์ ทำให้เกิดการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ระหว่างกัน











ในปีนี้มีการเพิ่มเติมบริเวณ โครงสร้างและ Installation ใหม่ ไม่ว่าจะเป็น...
Ancestral Forest หรือ ป่าปลูกที่จะกลายเป็นมรดกสืบทอดให้แก่ชุมชนและคนรุ่นหลัง ซึ่งเป็นความร่วมมือกับ SUGiทีมนักออกแบบแลนด์สเคป นักสร้างสวน-ป่า ที่ใช้เทคนิคมิยาวากิ ซึ่งปลูกป่าให้ใกล้เคียงโครงสร้างตามธรรมชาติของป่ามากที่สุด มีการใช้พืชพันธุ์ท้องถิ่น เพื่อช่วยเร่งอัตราการเจริญเติบโตและทำให้ป่าปลูกสามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืน กลายเป็นป่าของชุมชนไปในที่สุด 

Open Kitchen
 ครัวเปิดที่รวบรวมเอาอาหารท้องถิ่น ภูมิปัญญาจากก้นครัว และงานคราฟต์มานำเสนอในอาคารเปิดโล่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากคำว่า “แม่ครัว” ผู้ที่ริเริ่มสร้างสรรค์เมนูอาหารให้แก่ทุกคน และ แม่ ที่เปรียบเสมือนต้นกำเนิด เชิดชูเหล่าสตรี แม่ ป้า ย่า ยาย ที่เปรียบเสมือนเสาหลักของครอบครัว โดยใช้วัสดุก่อสร้างเหลือทิ้งจากโรงงานยาสูบและพื้นที่ใกล้เคียง

Neramit โครงสร้างถาวรที่สร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่โดย บุญเสริม เปรมธาดา สถาปนิกผู้ออกแบบ Open Kitchen โครงสร้างเปิดหลังคาทรงจั่วขนาดใหญ่ที่ออกแบบให้สอดรับกับทิศทางลมและแสงแดดในช่วงวัน ตลอดจนคำนึงถึงพื้นที่ประโยชน์ที่หลากหลาย สามารถใช้จัดโปรแกรมได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่การแสดงดนตรีและดีเจ ฉายภาพยนตร์ รวมถึงเป็นร้านอาหารและบาร์ และโซนพักผ่อน


 






ข้างเคียงฟาร์มที่ Wonderfruit ปลูกเพื่อไว้เป็นแหล่งอาหาร เป็นที่ตั้งของ Isan Rice Tower  หรือ หอข้าว โปรเจกต์ที่เป็นเป็นการร่วมงานระหว่างสตูดิโอสถาปนิกและทีมนักวิจัย ร่วมกับร้านอาหารท้องถิ่นจากจังหวัดขอนแก่นและสกลนคร เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของข้าวไทยกว่า 50 สายพันธุ์ และ ความสัมพันธ์ของข้าวต่อวิถีชีวิตของคนไทยที่มีหลากหลายมิติ ตั้งแต่วัฒนธรรมการกินอยู่ของคนท้องถิ่นที่ใช้น้ำซาวข้าวมาใช้ดองผักและหมักซอส ไปจนถึงการหมักสาโท และการใช้ข้าวให้เกิดประโยชน์สูงสุด

Yayoi Kusama’s ‘Flower Obsession (Sunflower)’
 ห้องสีเหลืองทรงกลมที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางดงดอกไม้นี้ ถูกหยิบยืมมาจาก Ota Fine Arts โตเกียว เพื่อจัดแสดงความลุ่มหลงในดอกทานตะวัน ของศิลปินชื่อดังเจ้าแม่ลายจุด Yayoi Kusama ซึ่งฉายวนซ้ำแล้วซ้ำเล่าในวิดีโอภายในห้อง

ยกระดับเรื่องความยั่งยืน หลังจากจัดงานมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 นอกจากการสร้างสรรค์โครงสร้างและ Installation จากวัสดุที่ถูกนำกลับมาใช้ใหม่ (Reuse & Recycle) การแยกขยะ รวมถึงการจัดการขยะยังคงเป็นสิ่งที่ Wonderfruit ทำอย่างจริงจัง และ Wonderer ที่มาร่วมงานทุกคนต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ภายในงานทุกคนจะต้องพกแก้วน้ำ ขวดน้ำ และภาชนะรับประทานเครื่องดื่ม-อาหารมาเอง











ปีนี้ เป็นปีแรกที่มี Wonderer มาร่วมงานมากที่สุด ตั้งแต่เคยจัดงานมา โดยมีผู้เข้าร่วมงานเฉลี่ยอยู่ที่ 13,000 รายต่อวัน บนพื้นที่กว่า 400 ไร่ที่แบ่งโซนเป็น Upper Field และ Lower Field โดย Upper Field โฟกัสที่อาหารและดนตรี ขณะที่ Lower Field มุ่งเน้นเวิร์คช็อป Scratch Talks และการดูแลร่างกายและจิตใจแบบองค์รวม

นอกจากนี้ Wonderfruit ยังได้ร่วมมือกับ Elevation Barn แพลตฟอร์มที่รวบรวมบุคคลผู้มีชื่อเสียง ผู้จัดเวิร์คช็อป หรือ ผู้ที่สามารถพูดสร้างแรงบันดาลใจจากทั่วโลก มาจัด session พิเศษ: WonderBarn ขึ้นเป็นปีแรก ในวันแรกของการจัดงาน 

โดยปกติงาน Wonderfruit จะมีทั้งหมด 5 วัน โดยเริ่มที่เย็นวันพฤหัสบดี แล้วไปสิ้นสุดที่เช้าวันจันทร์ แต่ในปีนี้ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองการกลับมาของ Wonderfruit และเพื่อให้ทุกคนได้อิ่มเอมกับงานอย่างเต็มที่ งานจึงเริ่มขึ้นตั้งแต่เช้าวันพฤหัสบดี ที่ 15 ธ.ค. 2565 ด้วย session พิเศษ:  WonderBarn ตั้งแต่เวลา 10.00 น. และไปสิ้นสุดในเวลา 15.00 น. ของวันจันทร์ ที่ 18 ธ.ค. 2565 

จุดเช็คอินในปีนี้ นอกจาก Solar Stage ที่ได้รับการอัปเกรดเป็น Solar Village โดยการเพิ่มพื้นที่ให้คนมาชิลล์รอชมพระอาทิตย์ยามขึ้นและลับขอบฟ้าในแต่ละวันแล้ว ดีไซน์ซุ้มประตูทางเข้าพร้อมตัวอักษรคำว่า Wonderfruit ก็ถูกปรับโฉมเป็นผืนผ้าสีแดงสดที่พลิ้วไหว ล้อกับ Ethos Pavilion ใกล้บริเวณทางเข้างาน ที่ปรับโฉมเติมผ้าเข้าไปบนหลังคา ก็โดดเด่นและอัดแน่นด้วยโปรแกรม Scratch Talksที่ทำให้ Wonderer ต้องมาเยือน 











นอกจากความยั่งยืนในเรื่องวิธีการทำงานและการเลือกใช้วัสดุต่างๆ Wonderfruit ยังสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับเหล่าศิลปิน อย่างในงานดีไซน์ MPD Studio ของ กัลป์ อดิเรกสาร ได้กลับมาปรับโฉมให้กับ Forbidden Fruit กับ โครงสร้างไม้ไผ่หลังคาทรงคลื่นที่มุงด้วยถุงผ้ากระสอบเหลือใช้ รวมถึงปรับโฉม Theatre Pavilion เป็นครั้งที่ 3 โดยเพิ่มเติมโครงสร้างเข้าไปทะเลสาบ เพื่อสร้างความรู้สึกเชื่อมโยงระหว่างน้ำ ท้องฟ้าและต้นไม้โดยรอบ ขณะที่ Ab Rogers Design สตูดิโอสถาปนิกจากอังกฤษ ได้ปรับเปลี่ยนดีไซน์ของ Main Entrance, Bath House, Ethos Pavilion, Theatre of Feasts, Creature Stage และ The Quarry 

เช่นเดียวกับทุกปี Wonderfruit 2022 ก็มีคิวเรทดนตรี ทั้งไลฟ์แบนด์และเหล่าดีเจจากทั่วโลก คอลเลคทีฟดีเจจากทั่วเอเชีย แบ่งตามช่วงเวลาได้แก่ ทีม Rainbow Disco Club (ญี่ปุ่น) ทีม UNKNWN (ฟิลิปปินส์) ทีม Snug (เวียดนาม) และทีมดีเจจาก FuFu Records (ฮ่องกง) ไปจนถึงการแสดงจาก HATARI จากไอซ์แลนด์ที่มาพร้อมโชว์สุดอลังการ

Sonic Elements โปรเจกต์ Sound Installation ที่ใช้การบันทึกเสียงธรรมชาติมาประกอบกับโครงสร้าง Installation สร้างสรรค์ด้วยคอนเซ็ปต์การเข้าถึงธาตุตามธรรมชาติ (ดิน น้ำ โลหะ ไม้) ด้วยเสียงอย่างเต็มอารมณ์ ที่ Wonderfruit ร่วมกับ MSCTY Studio บันทึกเสียงต้นไม้เก่าแก่ มาเปิดให้กับต้นไม้ป่าปลูก Ancestral Forest ในผลงาน Installation ธาตุไม้ (Wood) ขณะที่ธาตุดิน (Earth) เปิดเสียงชนพื้นเมืองของประเทศไทย ที่บันทึกเสียงและกำกับโดย Hear & Found เสียงในโซนทะเลสาบ (ธาตุน้ำ) บรรเลงเสียงที่บันทึกจากใต้น้ำของวาฬและคลื่นเสียงของมหาสมุทร โดย Chris Watson เพื่อกระตุ้นเตือนให้ตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม




 







ทั้งหมดนี้ เป็นแค่ส่วนหนึ่งในความสุข ความสนุกสนานที่สมกับคำว่า
 Live. Love. Wonder. แท็กไลน์ที่ Wonderfruit ต้องการให้ทุกคนที่มาร่วมงาน ใช้เป็นหลักในการสรรหาประสบการณ์ใหม่ๆ แล้วเราจะกลับมาเจอพวกเขาอีกครั้งในปีนี้ ไม่นานเกินรอ!


#CheezeLooker #News #Events #Festival #Wonderfruit2022