มาทำความรู้จักกับ "Julie Byrne" ศิลปินโฟล์กจากนิวยอร์ก เจ้าของน้ำเสียงอบอุ่นใน 5 เพลงโฟล์กสุดไพเราะที่เราอยากแนะนำ ก่อนสัมผัสเรื่องราวจากชีวิตจริงของหญิงสาวที่ทุ่มทุกสิ่งอย่างให้กับเสียงดนตรีได้ที่งาน "HAVE YOU HEARD? Folk Series: Julie Byrne Live! by MY BEER" ในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ ที่ Lido Connect 




เธอรู้สึกว่าการเป็นผู้ใหญ่ของเธอช่างเป็นอะไรที่โดดเดี่ยว ไม่มีใครเข้าใจ และไม่มีใครเข้าถึงมันได้ง่ายแบบแต่ก่อน โดยปกติแล้วคนที่เจอกับสภาวะนี้จะพบกับความเศร้าสร้อย แต่อันที่จริงแล้วถ้าลองมองดูดีๆ สิ่งเหล่านี้กลับเป็นอะไรที่เธอคุ้นชินยิ่งกว่าการได้เข้าไปอยู่ในความสัมพันธ์ไหนๆ เธอไม่กลัวอีกต่อไปว่าความสัมพันธ์หรือชีวิตจะไม่เป็นไปอย่างที่คิดหรือคาดหวัง เพราะการตระหนักถึงสิ่งที่อยู่ในตัวลึกๆ ได้ทำให้เธอรู้วิธีจะรับมือกับมัน ทำให้เธอเติบโตและเข้มแข็งขึ้นมาก

อะ...ลองตามมา >> Follow My Voice




การเป็นนักดนตรีโฟล์กโดยมากมักจะมีเรื่องราวจากการเดินทางหรือประสบการณ์จริงในชีวิตมาเล่าเรื่องราวในแบบของตัวเอง ซึ่งในเพลง Natural Blue นี้เป็นเรื่องราวระหว่างการทัวร์ของเธอโดยไม่ได้หยุดพักเป็นเวลานาน จนกระทั่งเธอมีโอกาสได้ไปพักและมีชีวิตส่วนตัวอยู่กับธรรมชาติรวมถึงผู้คน โดยก่อนหน้านี้หมู่บ้านที่เธอไปพักมีข่าวหน้าดินถล่ม ทำให้การกลับมาเจอกันครั้งนี้เป็นอะไรที่สำคัญและมีผลกับจิตใจของเธอและชาวเมืองอย่างมาก ซึ่งความรู้สึกสงบแบบที่ไม่ได้สัมผัสมานานก็ถูกถ่ายทอดผ่านเพลงนี้ >> Natural Blue




เพลงจังหวะกระฉับกระเฉงและมีเมโลดี้ที่สดใสกว่าสองเพลงแรก เหมือนจะเป็นเพลงที่ส่งต่อความรู้สึกดีๆ ให้ใครสักคน ขณะเดียวกันก็อาจหมายถึงความรักที่มีให้กับความฝันและทางที่เธอเลือกเดิน แม้เธอจะต้องอยู่ในความโดดเดี่ยวเรื่อยมา แต่การที่เธอได้คลุกคลีอยู่กับดนตรี ได้เดินทางท่องเที่ยวไปอย่างไร้จุดหมายก็เพื่อทำตามสิ่งที่ใจรักและต้องการไปค้นหาต่อว่า ดนตรีจะพาเธอไปได้ถึงไหน และมันก็ไม่ได้เศร้าขนาดนั้นเพราะตอนนี้เธอกำลังมีความสุขกับความสงบที่ได้รับจากเสียงเพลง แต่เนื้อหาในเพลงก็ดูมีความเหงาและตัดพ้อในความรักที่ไม่สมหวังอยู่ไม่น้อยเลย >> Sleep Walker




เมื่อประสบการณ์ไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงินตรา บทสนทนาที่มีค่าและตราตรึงอยู่ในหัวใจไม่สามารถเกิดขึ้นได้บ่อยๆ จูลี่ได้ถ่ายทอดความประทับใจในขณะที่เธอเดินทางไปยังรัฐแคนซัส อาคันซอ โคโลราโด ไวโอมิง และมอนทาน่า กับความรู้สึกที่ได้รับจากการอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเหล่านั้น ความเรียบง่ายของชีวิตได้บรรเทาความเหนื่อยอ่อนจากความพยายามที่จะทำตามความฝันของเธอให้สำเร็จ >> Melting Grid



เพลงที่เราอาจจะไม่ได้ยินเสียงกีตาร์โปร่งของเธอ แต่จะได้รับคุณค่าทางจิตวิญญาณจากแอมเบียนต์ล่องลอย และน้ำเสียงที่จูลี่ถ่ายทอดออกมาจากเบื้องลึกภายใน ราวกับว่าเธอได้พูดถึงการที่ตัวเองเลือกมอบทั้งหัวใจให้กับการเป็นนักร้องนักแต่งเพลงของเธอ เธอจำเป็นต้องเดินทางไปเรื่อยๆ เพื่อออกตามหาบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งนั่นทำให้เธอไม่สามารถสละส่วนเสี้ยวใดของใจให้สิ่งอื่นได้อีกนอกจากดนตรี >> I Live Now as a Singer