นอกเหนือจากความสวยงามของ 3 คอลเลคชั่นเครื่องประดับใหม่ล่าสุดของ "ADAGE" ยังมีคอลเลคชั่นอื่นๆ ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น Whispering Truth, Wisdom Graffities, A star is Born, Sacred Geometry, Buddhist Symbols, Deities & Mystical Beings แต่ละคอลเลคชั่นประกอบด้วยชิ้นงานเครื่องประดับดีไซน์ที่โก้หรู แต่ชัดเจนและแข็งแกร่งในเรื่องคอนเซ็ปต์ที่สะท้อนภูมิปัญญาและพลังแห่งจิตวิญญาณ ภายใต้ความประณีตบรรจงของ Anne-Marie Le Flanchec (แอนน์-มารี เลอ ฟลองเชค) ผู้ก่อตั้งและดีไซเนอร์ ผลงานทุกชิ้นสร้างสรรค์ด้วยอัญมณี Pink Gold, Yellow Gold, White Gold และเครื่องประดับเพชร โดย "ADAGE" ใช้เทคนิคการแกะสลักที่วิจิตรบรรจงซึ่งสร้างรูปแบบที่ซับซ้อนที่เรียกว่า "Guillloch" เทคนิคนี้ถูกนำมาใช้ในศิลปะการตกแต่งในฝรั่งเศสตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 โดย Peter Carl Faberg บนไข่ Faberg ที่มีชื่อเสียง นอกเหนือจากความหมายที่แท้จริงของคอลเลคชั่นที่แตกต่างกันแล้ว "ADAGE Jewelry" ยังมอบความสง่างามด้วยงานฝีมือที่ไร้ที่ติ
"ADAGE" บุกเบิกขึ้นในปี 2018 ในกรุงเทพมหานคร โดย "Anne-Marie Le Flanchec" ภายใต้แบรนด์ดีเอ็นเอและแรงบันดาลใจ "Care and Dare to wear the Essential, be Empowered by the True, the Good and the Beautiful" ความคิดสร้างสรรค์ ความโดดเด่น ความประณีต และความเป็นเอกลักษณ์ทำให้แบรนด์เตะตาและกลายเป็นที่ชื่นชอบในหมู่ Jewelry Lover ได้ไม่ยากนัก รวมถึงชุมชนทางจิตวิญญาณทั่วโลก เป็นความหลงใหลใน 2 ศาสตร์ "เครื่องประดับและความงาม" และ "โลกแห่งเวทย์มนตร์และภูมิปัญญา" ของ "Anne-Marie" รวมกับประสบการณ์กว่า 20 ปี ในอุตสาหกรรมเครื่องประดับ สู่ผลงาน Fine Jewelry ของ "ADAGE" ที่เป็นมากกว่าเครื่องประดับล้ำค่า แต่เสนอแรงบันดาลที่เตือนเราให้ยึดมั่นและเป็นอยู่ในความเป็นเอกลักษณ์และความสมบูรณ์ของตัวตนที่แท้จริง