GLOC
มัลติสโตร์จากอารีย์ซอย 2 ที่ยกโลกออนไลน์มาให้ได้จับต้องกันในชีวิตจริง กับบรรยากาศสบายๆ สไตล์โมเดิร์น จะมีทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ ของตกแต่งบ้าน ไปจนถึงเครื่องสำอางและสกินแคร์ นอกนี้ตรงเคาน์เตอร์ยังมีเครื่องดื่มจำพวกชาขายอีกด้วย ใครผ่านมาย่านอารีย์ก็อย่าลืมแวะไปดื่มชาผ่อนคลาย พร้อมเดินเลือกเสื้อผ้าเพลินๆ กันได้
DADDY AND THE MUSCLE ACADEMY
ใครที่รู้ตัวว่าโทนสีพาสเทลเป็นสีโปรดปรานสุดเลิฟแล้ว เราแนะนำร้านนี้เลย ด้วยสไตล์การตกแต่งร้านแบบยุค 90s ที่อัดแน่นไปด้วยไอเท็มโทนสีหวานๆ จากแบรนด์คนไทย มีให้เลือกตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า เครื่องสำอาง ไปจนถึงของใช้น่ารักๆ อย่างเคสมือถือ สมุดโน้ต หรือแม้แต่สติ๊กเกอร์ก็ยังมีให้ได้เลือกช้อปกัน ใครอยากลิ้มลองความหวานแบบ 90s ก็ลองแวะไปได้ ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เที่ยงวันยัน 3 ทุ่มที่สยามสแควร์ ซอย 2
OUTCAST
หนึ่งในร้านเสื้อผ้า Street Style ยอดนิยมของย่านสยามสแควร์ ภายในร้านจะแบ่งเป็น 3 ชั้น โดยชั้นแรกจะเป็นสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ชั้นสองจะเป็นแบรนด์สัญชาติไทย และชั้นสามจะเป็นเสื้อผ้าวินเทจ ความพิเศษของร้านนี้จะอยู่ตรงโซนด้านหน้า ซึ่งเป็นโซนที่รวมไอเท็มจาก Supreme ที่มีทั้งเสื้อยืด หมวก แผ่นสเก็ตบอร์ด ไปจนถึงไอเท็ม Limited Edition หายาก ตัวร้านจะอยู่บริเวณเวิ้ง Hard Rock Café หรือสยามสแควร์ ซอย 7 นั่นเอง
ROSEMANCLUB
เริ่มต้นจากแบรนด์แว่นตาสัญชาติไทย แต่มีขั้นตอนการผลิตในญี่ปุ่นทั้งหมด จนตอนนี้กลายเป็นร้านที่ไม่ได้มีดีแค่แว่นตาเท่านั้น แต่ยังมีไอเท็มอื่นๆ เพิ่มเข้ามา ทั้งเสื้อผ้า หมวก กระเป๋า รวมไปถึงไอเท็มสำหรับ Gentleman อย่างสูทและเน็คไทก็มีให้เลือกสรร มีทั้งหมด 3 สาขา ทั้งที่สุขุมวิท 31, Gaysorn Village และ One Nimman Chiang Mai ใครอยู่ใกล้โซนไหนก็ลองเข้าไปเยี่ยมชมกันได้กับร้านที่มีกลิ่นอาย Vintage Antique ร้านนี้
FRANK!
สำหรับร้านเปิดใหม่กลางสยามแสควร์ ซอย 2 นี้ ขอบอกว่าถ้าได้เข้าไปต้องล้มละลายแน่นอน เพราะภายในร้านเต็มไปด้วยไอเท็มที่ค่อนข้างหลากหลาย ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ ไปจนถึงพวกของตกแต่งบ้านอย่างเทียนและแจกัน แนะนำให้ชวนกันไปเป็นคู่ๆ เพราะภายในร้านจะมีทั้งไอเท็มของผู้หญิงและผู้ชายให้เลือกกันอย่างเต็มอิ่ม ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่ 12.00 – 21.00 น.
ONION
อีกหนึ่งร้านที่น่าสนใจสำหรับการรวม Fashion และ Café ไว้ด้วยกัน ให้คุณได้ช้อปและชิลล์ไปพร้อมๆ กับบรรยากาศที่เป็นกันเองในสไตล์ Modern Loft โดยที่ไอเท็มส่วนมากจะเป็นแบรนด์นำเข้าจากต่างประเทศ เน้นพวกสไตล์ Outdoor และ Workwear เป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีแบรนด์เสื้อผ้าที่เป็นของทางร้านเองอีกด้วย ใครที่สนใจก็สามารถแวะไปช้อปและจิบกาแฟชิลล์ๆ กันได้ทุกวันที่เอกมัยซอย 12 ตั้งแต่ตอนเที่ยงจนถึง 2 ทุ่ม
UPPERGROUND
ร้านสตรีทแวร์ระดับ Hi-End ในเครือ Carnival ที่รวบรวมเสื้อผ้าจากแบรนด์สตรีทชั้นนำจากต่างประเทศมาไว้ที่นี่ จะแตกต่างกับ Carnival ตรงที่ร้านนี้จะเน้นเสื้อผ้ามากกว่าสนีคเกอร์ และเรื่องราคาก็จะเลเวลอัพขึ้นมาอีกด้วย ใครสนใจหรือเดินเล่นอยู่ใน CentralWorld อยู่แล้ว ก็สามารถไปเยี่ยมชมได้ที่ชั้น 3
SIWILAI
ร้านมัลติแบรนด์ที่รวมเสื้อผ้าระดับ Hi-End อย่าง Thom Browne, Visvim, Palm Angels และอีกหลากหลายแบรนด์ชั้นนำจากต่างประเทศ ไปจนถึงของใช้ที่ตอบโจทย์ Urban Lifestyle อย่าง Gadget หนังสือ แผ่นเสียง รวมอยู่ด้วย และส่วนที่น่าสนใจสำหรับร้านนี้คือการยกเอาของวินเทจที่ค่อนข้างจะคอนทราสต์กับร้านมาจัดเป็นโซนเล็กๆ เอาใจคนที่ชอบของมีประวัติกัน สามารถเข้าไปเยี่ยมชมความกว้างขวางของร้านได้ที่ Central Embassy ชั้น 5 หรือจะเข้าไปนั่งกินข้าวในโซนข้างๆ ที่เปิดเป็นคาเฟ่ก็ยังได้
THE SOMCHAI
ร้านตัดสูทสไตล์อิตาเลียนสุดเนี้ยบจากย่านทองหล่อ เหมาะสำหรับสุภาพบุรุษที่ใส่ใจในทุกดีเทลและเต็มไปด้วยรสนิยม โดยกิมมิคของร้านจะอยู่ตรงที่การจัด Trunk Show ให้สุภาพบุรุษไทยได้มีโอกาสตัดสูทกับ Tailor ฝีมือดีจาก Florence โดยการเปิดรับวัดตัวลูกค้าแบบ Bespoke อย่างเป็นส่วนตัว เพื่อให้ได้สูทที่เป็นตัวคุณมากที่สุด นอกจากนี้ภายในร้านยังแบ่งเป็นส่วนที่เป็นคาเฟ่และบาร์อีกด้วย เผื่อคุณผู้หญิงคนไหนมากับคุณผู้ชายก็สามารถจิบกาแฟ อ่านหนังสือรอได้
WILD ICONIC
อัดแน่นไปด้วยของเด็ด โดยเฉพาะ Runway Pieces แบบชนิดที่เรียกได้ว่า แม้แต่ในช็อปบางช็อปยังไม่มี นอกจากไอเท็มแบรนด์เนมหายากแบบซีซั่นซนซีซี่นแล้ว ภายในร้านยังมีในส่วนของ Archive Collection เก่าเก็บให้เลือกซื้อเลือกชม รวมถึงเสื้อผ้าวินเทจ (โดยเฉพาะเสื้อยืด) ให้เลือกหลากหลาย เรียกได้ว่าเพลินแน่นอน และก็ไม่แน่ว่าบางครั้งเลือกๆ เสื้อผ้าอยู่ คุณอาจมีโอกาสได้เจอเหล่า Influencers หรือดาราดังๆ มาร่วมเลือกของในราวเดียวกันก็เป็นได้!
#CheezeLookerRecommended #10shoppingplaces
ปีนี้โทนสี Olive Green ต้องมา!!!
ถึงเวลาขโมยกระโปรงคุณแฟนกันแล้ว!
ร้องไห้ให้พอ แล้วเริ่มต้นใหม่ด้วยความทรงจำดีๆ อีกครั้ง
อดทนไม่ไหวเลยต้องจับ "ส้ม มารี" คนดีคนเดิมมานั่งคุย ว่าที่มาที่ไปของเพลงนี้เป็นยังไง พร้อมอัพเดทบ้านใหม่ให้เราได้ฟังกันแบบจุใจหายคิดถึง!