ถ้าครั้งหนึ่งเคยรักใครจริงๆ คุณจะเข้าใจความรู้สึก ณ ตอนนี้ แต่ถ้าหากคุณไม่เคยรักใครเลย นอกจากตัวเอง คุณจะไม่มีวันเข้าใจคนที่ "ยังรัก" แต่ต้อง Move On เพื่อให้ตัวเองยังหายใจได้คล่อง และยิ้มให้กับวันพรุ่งนี้ได้อีกครั้ง
"Don't Waver, Don't Have A Heart"
ว่าด้วยเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่พยายามเปลี่ยนบ้านหลังเก่าให้กลายเป็นออฟฟิศใหม่ในสไตล์ Minimal ด้วยการรื้อทิ้งของเก่าเก็บในบ้านให้มีพื้นที่มากพอสำหรับการรีโนเวทครั้งใหม่ แต่การเก็บบ้านครั้งนี้กลับพาเธอไปพบกับ “แจ็คพ็อต” ที่ไม่คาดคิด
ความรู้สึกหลังดูจบ
ใครเพิ่งเลิกกับแฟนมาหมาดๆ อาจร้องไห้สะอื้นปางตายในโรงหนังหลังดูจบได้เลย ยิ่งถ้าไปดูคนเดียวด้วยแล้ว บอกเลยว่า
“รอดยาก” คนเพิ่งโสดควรคิดให้ดี คิดให้หนัก ก่อนจะตัดสินใจไปคนเดียว อย่างน้อยๆ มีเพื่อนติดสอยห้อยตามไปด้วย คอยหิ้วกลับบ้านยามหมดแรงก็ยังดี
.............................................................................................................
เราชอบที่เค้าหยิบประเด็นย่อยง่ายอย่างเรื่องการพูดขอโทษมาเล่นกับ “ความรู้สึกผิด” ที่ยังติดค้างอยู่ในใจ เพราะบางครั้งการเอ่ยคำว่า
“ขอโทษ” มันก็เป็นเหมือนจิตวิทยาอย่างหนึ่ง ที่ใช้หลอก และปลอบโยนตัวเองว่าอย่างน้อยๆ เราก็ได้ทำสิ่งที่ถูก และควรทำแล้ว จะได้ไม่ต้องมารู้สึกผิดกับสิ่งที่เคยทำอีกต่อไป แต่เราอาจลืมคิดไปว่าคำว่า
"ขอโทษ" ของเรานั้น มันอาจเป็นเหมือนเอามีดมากรีดซ้ำลงบนแผลเดิมของคนที่เราเคยรักอีกครั้ง
.............................................................................................................
มีการสอดแทรกประโยคแดกดันจิกกัดสังคมได้อย่างน่ารัก ด้วยการใช้คำว่า Minimal Style ที่พยายามเติมเข้ามาในช่วงแรกๆ ของหนัง โดยเฉพาะเรื่องความคิดที่ไม่ตรงกันของคนรุ่นแม่ กับคนรุ่นลูกที่ดูจะโมเดิร์นเกินกว่าที่แม่ๆ จะรับไหว ตัวละครแม่ในเรื่องนี้เป็นเหมือนตัวแทนของคนรุ่นเก่าๆ ที่ยึดติดกับ “ของเก่าเก็บ” ในขณะที่ลูกๆ พยายามรื้อทิ้งความทรงจำรกๆ ในอดีตที่เคยผ่านมานานจนไม่ได้ใส่ใจที่จะจำอีกต่อไปแล้ว
มันเหมือนเป็นเรื่องตลกที่ขำไม่ค่อยออกสำหรับคนรอบข้าง ที่ใครคนหนึ่งสามารถทิ้งสิ่งของในความทรงจำไปได้อย่างง่ายดาย เพราะความรักตัวเอง หรือจะเรียกให้เข้าใจง่ายๆ ว่า "เห็นแก่ตัว" ก็ดูจะเป็นอะไรที่แรง แต่ชัดเจนที่สุดแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งของที่เคย “สำคัญ” มีค่ายิ่งกว่า “เงิน” ก็กลายเป็นเพียงขยะชิ้นหนึ่งที่ถูกโยนทิ้งอย่างไม่เหลือใย
.............................................................................................................
ส่วนตัวเราอินหนักมากกับประเด็นที่ว่า คนบางคนทิ้งอดีตได้ง่ายๆ ราวกับการยัดเศษขยะลงถุงดำ คนบางคนเลือก
Move On ไปทั้งๆ ที่ยังรัก และลืมไม่ได้ แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะไม่ทนเห็นตัวเองตายซากกับเรื่องเดิมๆ ในอดีต เพราะทุกอย่างต้อง
Move On ไปข้างหน้า ชีวิตเป็นของเรา ไม่ใช่ของแฟนเก่า!
.............................................................................................................
เพลงประกอบซีนสุดท้ายตอนใกล้จบคือดีมาก เข้ากับซีนอารมณ์ในตอนนั้นได้ดีจนอยากกลับบ้านไปเปิดฟังวนไปมา ซ้ำๆ ได้ทั้งอาทิตย์ เราชอบเพลงนี้มากกว่าเพลงหลักของ The Toys อย่าง “ทิ้งแต่เก็บ”
.............................................................................................................
แล้วตัวคุณ Spark Joy กับของในความทรงจำชิ้นไหนบ้าง ถึงขนาดที่ว่า "ทิ้งไม่ลง"
#CheezeLooker #LookerRecommended #WatchList #movie #ฮาวทูทิ้ง #สปาร์คจอย