Vincent Van Gogh เป็นจิตรกรชาวดัชต์ผู้มีผลงานศิลปะลัทธิ Post-Impressionism เขามีชีวิตอยู่ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ภายในเวลาเพียง 10 ปี เขารังสรรค์ผลงานจิตรกรรมจำนวน 930 ชิ้น ภาพวาดและภาพสเก็ตช์อีก 1,100 ชิ้น ทว่าผลงานของเขาไม่ได้เป็นที่จดจำเลยในขณะที่เขามีชีวิตอยู่ เขาขายภาพวาดได้เพียงไม่กี่ภาพเท่านั้น และจากโลกนี้ไปด้วยความยากจนและเศร้าหมอง
มาถึงวันนี้ Vincent Van Gogh ยังคงเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักในระดับต้นๆ ของโลก แม้แต่คนที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับงานศิลปะก็ยังสามารถแยกงานของเขาออกจากงานของศิลปินอื่นๆ ได้ งานจิตรกรรมของเขาติดอันดับชิ้นงานที่แพงที่สุดในงานประมูล!
Van Gogh ใส่จิตวิญญาณ และอารมณ์ที่พลุ่งพล่านเข้าไปในชิ้นงานของเขา ชีวิตของเขาเต็มไปด้วยความทุกข์ระทม ความเศร้าโศก และสภาวะทางจิตใจที่ไม่ค่อยเสถียรนัก สิ่งนี้ช่วยเติมเต็มผลงานแต่ละชิ้นของเขาให้สื่อความหมายอย่างลึกซึ้ง ทุกชิ้นล้วนนำเสนอมุมมองที่ Van Gogh เองมองเห็นฉากต่างๆ แล้วตีความด้วยสายตา ความคิด และหัวใจของเขา
เทคนิคการวาดของศิลปินไม่เพียงแต่เกิดจากการเปลือยกายทางจิตที่ไร้ขอบเขตผ่านการวาดภาพเท่านั้น รูปทรง สัญลักษณ์ สี และรอยแปรงพู่กันต่างถูกนำมาใช้เพื่อแสดงออกถึงอารมณ์ของศิลปินทั้งสิ้น ทำให้งาน ของ Van Gogh แสดงถึงเบื้องหลังของชีวิต อารมณ์และความประทับใจของเขาคงอยู่มาหลายชั่วอายุคน และกลายเป็นสัญลักษณ์สากลของความรู้สึกที่ลึกซึ้งที่ยังคงเป็นที่จดจำจนถึงทุกวันนี้
ผลงานของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่นี้ถูกเก็บรักษาไว้ในแกลอรี่ และคอลเลคชั่นส่วนตัวทั่วโลก ทั้งในเนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา รัสเซีย และประเทศอื่นๆ อีกมากมาย การที่จะนำผลงานทั้งหมดมาจัดแสดงไว้ในนิทรรศการเดียวนั้นเป็นไปไม่ได้เลย มีแค่นิทรรศการมัลติมีเดียที่สามารถทำเช่นนี้ได้ นิทรรศการ "Van Gogh. Life and Art" จะพาทุกคนดื่มด่ำกับเรื่องราวชีวิตของศิลปินระดับปรมาจารย์ ผ่านคลังภาพที่จัดว่าครบที่สุด ตั้งแต่ภาพสเก็ตช์จากถ่าน ไปจนถึงชิ้นงานระดับมาสเตอร์พีซ จอภาพขนาดใหญ่ทำให้ผู้ชมสามารถเห็นและชื่นชมผลงานได้อย่างลึกซึ้งถึงระดับรอยแปรงพู่กัน นอกจากภาพวาดแล้วยังมีจดหมายที่ Van Gogh เขียนถึง Theo น้องชายของเขาอีกด้วย ทำให้เข้าใจชีวิตของเขาได้ลึกซึ้งขึ้นไปอีก!
ซึ่งนิทรรศการนี้เคยจัดแสดงมาแล้วที่ เบอร์ลิน มอสโคว เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และเมืองอื่นๆ อีกมากมาย ผ่านสายตาคนนับล้านที่เข้ามาเพลิดเพลินกับศิลปะระดับมาสเตอร์พีซ พร้อมกับดนตรีอันน่าตื่นตาตื่นใจ ถือเป็นนิทรรศการที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง!
นอกจากเหล่า Art Lover จะได้เต็มอิ่มไปกับงานดีๆ ของ Van Gogh แล้ว ยังได้สนุกไปกับ Meitu (เหม่ยทู๋) App. สุดฮิตที่สร้างสรรค์ฟีเจอร์ใหม่ๆ ขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่องานนิทรรศการนี้โดยเฉพาะ อารมณ์ประมาณว่าให้ศิลปะติดตามเราไปทุกที่ด้วยฟีเจอร์ Sticker ที่สามารถนำผลงานมาสเตอร์พีซ ไม่ว่าจะเป็น Sunflowers, Irises, The Starry Night และ Bedroom in Arles มาใส่กรอบหรือไปวางที่ไหนก็ได้ในรูปถ่ายที่เราชอบ ซึ่ง Meitu บอกถึงเหตุผลในการร่วมงานกับ River City Bangkok ครั้งนี้ว่า...
"การสร้างสรรค์ศิลปะร่วมกันคือจุดประสงค์หลักของ Meitu ในตลาดต่างประเทศในปี 2020 เราต้องการเชิญชวนศิลปินวัยรุ่นและมีความสามารถมาร่วมกับเรา ด้วยหวังว่าความคิดสร้างสรรค์จะมากขึ้นเมื่อ Meitu ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับนิทรรศการ Van Gogh. Life and Art ซึ่งเป็นการนำภาพสีน้ำมันแบบโบราณมานำเสนอด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย"
เรียกได้ว่า โปรเจกต์นี้ เป็นการสานต่อความเชื่อที่ว่าศิลปะคือภาษาสากลและเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญต่อแบรนด์ Meitu เมื่อต้องการเจาะตลาดไปทั่วโลก ซึ่งศิลปะจะช่วยเชื่อมโยงผู้ใช้แอพลิเคชั่นทั่วโลกโดยไม่จำกัดว่าเป็นชาติพันธุ์ เพศ อายุ ภาษา และสุนทรียะแบบใด ที่สำคัญคือ...มันง่ายมาก! เพียงดาวน์โหลด App. Meitu ได้ฟรีทั้งใน App Store และ Google Play Store
#CheezeLooker #News #Art #Exhibition #VincentVanGogh #VanGoghLifeandArt #MeituxRCB #RiverCityBangkok
ไม่ต้องรอให้ถึงช่วง Festive ก็ปล่อยแสงระยิบระยับได้...
รองเท้าสัญชาติอังกฤษที่จะเปลี่ยนผู้ชายให้กลายเป็นสุภาพบุรุษ ‘สมชาย’
เวสปิสตี้เจอกัน 6-7 กรกฎาคมนี้ พบกัน!
อินสไปร์ลายเล็บจากความชอบสุดยูนีค