ปฏิเสธไม่ได้ว่า...หลายครั้งในชีวิต เรามีพลังความคิดสร้างสรรค์ของ 'คนรุ่นใหม่' คอยเติมไฟในใจให้ลุกโชน

ในขณะที่ประสบการณ์และความชำนาญของ 'คนรุ่นเก๋า' นำพาแรงบันดาลใจให้เรากล้าไปต่อ ในสิ่งที่อยากทำและยังไม่เคยลงมือ

คำพูดล้อมกรอบความคิดที่ว่า 'เก่าไป ใหม่มา' อาจถูกหยิบยกให้เข้ากับสถานการณ์ในชีวิตได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกับผู้คน สิ่งของ เทรนด์แฟชั่น ไปจนถึงเทคโนโลยี แต่ไม่ใช่สำหรับเราในนาทีนี้...

เพราะภาพตรงหน้าที่เราเห็น คือการร่วมมือสร้างสรรค์ผลงานชิ้นใหม่ของสองศิลปินต่างขั้ว ต่างสไตล์ ต่างเจเนอเรชั่น ที่โคจรมาพบกันผ่านดนตรี แฟชั่น และศิลปะที่พวกเขาต่างใช้ขับเคลื่อนชีวิต โดยมี Converse เป็นจุดเชื่อมโยงเรื่องราว นำพาทั้งคู่ก้าวเท้ามาเจอกันกับ #CheezeLooker เพื่อบอกเล่าเรื่องราวสนุกสนานของการ ไปต่อ ของชีวิต ความคิด และโปรเจกต์ที่ทั้งคู่กำลังทำร่วมกันอยู่

"ตน - ต้นหน ตันติเวชกุล"
@tonhon

ศิลปินรุ่นใหม่ที่รักแฟชั่น สนุกกับการแต่งตัวแบบไร้กรอบ ขับเคลื่อนชีวิตด้วยเสียงเพลง และงานแสดงก็เป็นอีกหนึ่งพรสวรรค์ที่เขาทำมันได้ดีไม่แพ้งานดนตรี ล่าสุด ตนกลับมาในฐานะศิลปินเดี่ยว ภายใต้การดูแลของ What The Duck จากที่ก่อนหน้านี้ได้โชว์ฝีมือในฐานะศิลปินดูโอ้ "mints" ที่เล่าเรื่องราวและเป็นกระบอกเสียงให้กับคน GEN Z ซึ่งในครั้งนี้ เค้าจะพาทุกคนไปรู้จักตัวตนของเขาให้มากกว่าเดิม ผ่านเสียงดนตรีที่ลงมือทำเองทุกขั้นตอน


#CheezeLooker: Recap ชีวิตช่วงก่อนหน้านี้ให้เราฟังทีว่าไปทำอะไรที่อยู่ไหนมา?

Tonhon: ช่วงที่หายไป ก่อนเริ่มทำอัลบั้มนี้ ผมไปทำงานกับ 'พี่โฟร์ HENS' (ประทีป สิริอิสสระนันท์) ...ต้องบอกก่อนว่า จุดเริ่มต้นที่รู้จักกับพี่โฟร์ ก็คือช่วงที่เค้าเป็นโปรดิวเซอร์ให้ 'mints' ซึ่งผมค่อนข้างถูกชะตากับเค้า พี่โฟร์เป็นคนสอนให้ผมทำโปรแกรมเพลง คือผมเรียนดุริยางค์มาก็จริง (สาขาวิชาดนตรีแจ๊ส คณะดุริยางค์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร) แต่ผมก็ไม่เคยเรียนทำเพลงมาก่อน ก็ได้พี่โฟร์ช่วยให้เราเริ่มต้นสิ่งนี้ และต่อยอดเรียนรู้ด้วยตัวเองแบบจริงจังผ่าน YouTube นี่แหละ โดยมีพี่โฟร์คอยให้คำแนะนำ เวลาเราสงสัยอะไรในเรื่องเทคนิคต่างๆ...2 ปีที่ผ่านมา ผมก็ใช้เวลาฝึกตัวเอง เก็บเกี่ยวการทำเดโม่ไปเรื่อยๆ จนมีเดโม่เยอะมากที่ไม่ได้ปล่อย นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้ทำงานโปรดิวซ์กับพี่โฟร์และพี่เบล (สุพล พัวศิริรักษ์) ด้วย ซึ่งทั้งคู่ก็เป็นบุคคลที่เราเคารพรักมากๆ รู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้เรียนรู้จากพี่ๆ ที่มีความสามารถในวงการเพลงของบ้านเรา

 

#CheezeLooker: ที่มาที่ไปของการเป็นศิลปินเดี่ยว

Tonhon: กว่าจะมาถึงวันนี้ ผมมีเรื่องราวใต้กองภูเขาอีกเยอะ ซึ่งผมไม่รู้ว่ามันจะนับจากฐานนั้นเลยได้ไหม เพราะว่ามันมีซิงเกิ้ลที่ผมทำและฝึกซ้อมอยู่หลายเพลง ผมก็เคยคิดว่าจะปล่อยมันออกมาในตอนแรกนะ แต่กลายเป็นว่าตอนนี้เราอัพเดทตัวเองไปเรื่อยๆ จนเราไม่ได้รู้สึกว่าชอบชิ้นงานนั้นแล้ว ซึ่งเพลงแรก (TikTok Girl) ที่เพิ่งปล่อยออกมา เป็นเพลงที่ทำขึ้นมาเมื่อไม่นานมานี้ ทางค่ายฟังแล้วก็บอกว่ามองเห็นตัวตนชัด ไม่เหมือนกับผลงานที่ผ่านมา และผมคิดว่ามันสามารถ Represent ความเป็นตัวเองได้ดี

#CheezeLooker: เพลงแรกกับความรู้สึกแรก

Tonhon: ตื่นเต้น! เอาจริงๆ ผมพยายามคาดหวังให้น้อยที่สุด ยังคุยกับพี่ๆ ที่ค่ายเลยว่า...สิ่งนี้มันเป็นการต่อสู้ระยะยาว เพราะเราไม่ได้ทำงานแบบที่ปล่อยมาเพลงแรก เพลงเดียวแล้วตั้งใจให้มันตู้มเลย แต่ผมคิดเป็นภาพใหญ่ หมายถึงว่า...ผมคิดมาหมดแล้วทั้งอัลบั้ม ผมคาดหวังตรงนั้นมากกว่า ว่าถ้าปล่อยออกไปแล้ว ภาพต้องชัด เป้าหมายของตอนนี้คือคนต้องเห็นว่าผมมีความเป็น Artist มากขึ้น และเห็นตัวตนตามที่เราตั้งใจสื่อออกไป ถามถึงความคาดหวัง มันมีอยู่แล้ว เราก็อยากให้คนฟังเยอะๆ คนเห็นเยอะๆ  

#CheezeLooker: TikTok Girl...ทำเองไปหมดทุกภาคส่วน พาร์ทไหนยากที่สุด?

Tonhon: เนื้อเพลงครับ สำหรับเพลงนี้ มันอาจจะยังไม่ใช่ The Best Version จริงๆ ทุกเพลงที่ผมปล่อยออกมา ผมจะชอบรู้สึกก่อนปล่อยทุกทีว่าอยากให้มันดีกว่านี้ ด้วยความที่ผมเป็นคนย้ำคิดย้ำทำ คนชอบแซวว่าเป็น OCD อะ (หัวเราะ) ถึงใครจะบอกว่ามันดีแล้ว แต่เรายังรู้สึกว่ามันพัฒนาไปได้อีก...อย่างวันนี้กับตอนที่ผมเคาะว่างานเสร็จแล้ว ถึงเวลาจะผ่านไปแค่แป๊บเดียว ผมว่าผมก็พัฒนาขึ้นกว่าวันนั้นและทำได้ดีกว่านั้นแล้ว ก็อยากให้ทุกคนลองดูพัฒนาการกันที่เพลงต่อๆ ไปด้วยครับ

#CheezeLooker: มีความเนิร์ดและเนี้ยบไม่เบาในเรื่องงานเพลง...

Tonhon: ใช่ ผมเป็นคนเนิร์ดครับ เนิร์ดหลายเรื่องเลย :))




#CheezeLooker: เชื่อว่าเป็นภาพที่หลายคนรอคอย เพราะตนพูดเสมอแทบทุกสื่อว่าเป็น FC พี่ป๊อด (ธนชัย อุชชิน) มาตั้งเด็กๆ อยากถามความรู้สึกตอนขายงานพี่ป๊อดผ่าน จนยอมมาเป็น Art Director ให้ในโปรเจกต์นี้

Tonhon: ครอบครัวของผมเป็นแฟนคลับของ 'Moderndog' อยู่แล้ว เริ่มจากคุณพ่อ แล้วก็มาถึงผม วงไทยที่ชอบมากที่สุดคือ 'Moderndog' ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ แต่คุณพ่อเป็นคนเสนอไอเดียขึ้นมา เพราะเค้าติดตามผลงานศิลปะของพี่ป๊อด ซึ่งเราก็มองว่ามันเป็นเรื่องที่ไกลมาก จะไปขอพี่เค้ายังไง จนตัดสินใจลองทักไป ตอนแรกเหมือนพี่ป๊อดจะไม่รับงานที่ต้องทำตามโจทย์ แต่ก็ขอฟังเดโม่ก่อน พอฟังแล้ว พี่ป๊อดบอก โอเค...ทำ! พี่ป๊อดเคยบอกผมว่าชอบ Energy ของเพลง เป็น Energy ที่เค้าอยากทำงานด้วย เค้าบอกว่าถ้าผมมาดาร์คไปเลย ก็อาจจะไม่ตกลง...

หลังจากนั้นผมก็เตรียมสไลด์อัลบั้มไปพรีเซนท์ เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่ผมต้องทำสิ่งนี้ มีคอนเซ็ปต์เพลง มีภาพรวมทั้งหมดที่อยากเห็นเอาไปให้พี่ป๊อดดู จากที่ตอนแรกขอให้เค้าช่วยทำอาร์ทเวิร์คซิงเกิ้ลเดียว เพราะงานบางส่วนได้เริ่มไปแล้ว แต่พอคุยกันไปคุยกันมา รู้สึกว่าพี่ป๊อดอินไปกับงานของเรา ผมเลยเสนอไอเดียไปว่า หรือพี่อยากทำทั้งอัลบั้มเลยมั้ย ซึ่งเค้าก็เอาด้วย...อัลบั้มแรกในชีวิตของผม ก็เลยมีพี่ป๊อดมาเป็น Art Director วันที่ถ่าย MV 'TikTok Girl' พี่ป๊อดก็มาคุมถ่าย ช่วยดู Art Direction ให้ เป็นการทำงานที่สนุกและน่าจดจำมากๆ




#CheezeLooker: สิ่งที่เชื่อมโยงกันนอกจากเรื่องดนตรีแล้ว ยังมีเรื่องไหนที่ตนกับพี่ป๊อดลิงค์กันอีกบ้าง?

Tonhon: น่าจะเป็นเรื่องภาพที่เห็นตรงกัน เพราะเราคุยกันรู้เรื่องมาตั้งแต่แรก ผมได้พี่ป๊อดมาช่วยอุดช่องว่างที่หายไป เพราะผมก็ยังมีประสบการณ์น้อย บางอย่างผมมองไม่เห็นหรือยังไปไม่ถึง เอาจริงๆ สองคนก็ดีกว่าคนเดียว แล้วอีกคนดันเป็นพี่ป๊อดไง (CheezeLooker: บุคคลในตำนานซะด้วย!) ใช่ๆ ก็มีเกร็งบ้าง แต่สนุกครับ!


#CheezeLooker: สิ่งที่ตนได้เรียนรู้ระหว่างการทำงานร่วมกับพี่ป๊อด ศิลปินที่เรียกว่าตำนานของบ้านเรา

Tonhon: สิ่งหนึ่งที่พี่ป๊อดตรงกันข้ามกับผมคือพี่ป๊อดเค้าฟีลมาก ใช้สัญชาตญาณ แต่ผมมันย้ำคิดย้ำทำไง ในขณะที่ผมมัวคิดเยอะ...เอาไงดีวะ พี่ป๊อดก็จะแบบ...เฮ้ย! ชอบแล้ว เอาเลย! ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่ผมพยายามเรียนรู้อยู่ ไม่งั้นไม่ได้เลยอะ เผลอๆ เพลงนึง อาจจะมี 10 เวอร์ชั่น!!!




#CheezeLooker: ชีวิตของตนกับดนตรี ภาพ 'ฝัน' ที่ไกลที่สุดในอาชีพศิลปิน คือ...

Tonhon: จริงๆ อาชีพที่ผมอยากทำที่สุดคือ 'โปรดิวเซอร์' และ 'การทำเพลง' คือสิ่งที่เราอยู่กับมันได้นานที่สุด...ผมมี Role Model อยู่สองคน คือ พี่โฟร์ HENS ที่เก่งรอบด้าน ทำทุกอย่างได้หมด มีเซนส์ที่ดีในเรื่องงานคอมเมอเชี่ยลที่ผมอยากทำให้ได้ และ พี่ยิ้ม SOMKIAT (ประวิทย์ ฮันสเตน) โปรดิวเซอร์คนแรก ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังรักกันมากๆ ในแง่หนึ่ง ผมโตมากับพี่ๆ โปรดิวเซอร์ที่ดูแลเรามาเป็นอย่างดี เค้าตั้งใจและทุ่มเทกับวงมาก ซึ่งมันเป็นเรื่องพิเศษสำหรับผม วันหนึ่งผมอยากให้ศิลปินของผม รู้สึกเหมือนที่ผมรู้สึกตอนที่ผมทำงานกับพี่ยิ้ม

...อีกความฝันหนึ่งคือผมอยากมีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเอง ผมอยากให้คนที่ผมรู้จักและคนที่ผมรักมารวมตัวอยู่ด้วยกัน เหมือนตอนที่เราไปงานแต่งงานหรืองานรับปริญญา เพราะผมอยากเจอคนที่เรารัก ผมชอบความรู้สึกแบบนั้นมาก :)


#CheezeLooker: ตนเคยให้สัมภาษณ์ว่า...พอเลิกตีกรอบ ชีวิตจะกว้างขึ้น - - วันนี้ตนยังยืนยันความคิดนี้อยู่มั้ย หรือมีอะไรที่ค้นพบมากขึ้นระหว่างทาง

Tonhon: ผมโตมากับความ Strict มากๆ กรอบเยอะ แต่ก่อนจะออกจากกรอบ ผมว่าเราต้องรู้จักกรอบก่อน เราจะได้รู้ว่าอะไรคือนอกกรอบ ผมว่าเรื่องนี้มันยืดหยุ่นได้ ผมเลิกคิดเรื่องนี้ไปแล้ว ทุกวันนี้ผมก็ใช้ชีวิตตามที่อยากจะใช้ ซึ่งมันก็อาจจะยังอยู่ในกรอบหรือนอกกรอบด้วย แต่ผมเลิกคิดไปแล้วว่ามันจะต้องเป็นยังไง


#CheezeLooker: เข้ามาที่เรื่องแฟชั่น...ความ 'ชัดเจน' ที่ส่งผ่านสไตล์การแต่งตัวของตนในวันนี้ มันมีมวลสารหรือเรื่องเล่าอะไรอยู่ในนั้นบ้าง?  

Tonhon: จริงๆ มันสัมพันธ์กับซิงเกิ้ลนี้ของผมด้วย คือผมอยากให้คนที่มองผม เข้าถึงผมง่ายขึ้น เมื่อก่อนอาจจะดูแฟชั่นจัดไปหน่อย แต่ถ้าใครที่สนิทกับผมจริงๆ จะรู้เลยว่าผมเป็นคนขี้เกียจแต่งตัวมาก อาบน้ำแต่งตัวเร็วที่สุดในบ้าน เรียกว่าเป็นที่สุดแห่งความชิลล์ได้เลย และอาจจะโชคดีตรงที่เสื้อผ้าที่เราเลือกมันสวยด้วยตัวเองอยู่แล้ว


#CheezeLooker: Converse x Tonhon

Tonhon: ถ้าพูดถึง 'Converse' ผมนึกถึงคำว่า 'Timeless' เพราะเราเห็นสิ่งนี้มานานมาก ตั้งแต่จำความได้เลย เอาจริงๆ ผมเองก็อยาก 'Timeless' ในแง่ของผลงานเพลง เหมือนอย่างที่พี่ป๊อดทำเอาไว้ ซึ่งมันก็ดูเป็นการเดินทางที่ยาก แต่ผมจะพยายามทำให้ได้ในสักวัน

#CheezeLooker: 'ได้เวลาออกจาก Comfort Zone' คำนี้ที่ตนเขียนไว้ มันจะ ไปต่อ ไปสุด ตรงจุดไหน?

Tonhon: ชัดๆ เลยคือเรื่องของการร้องเพลงครับ...การออกอัลบั้มเดี่ยว เป็นการออกจาก Comfort Zone ของแท้เลย ทุกวันนี้ยังต้องซ้อมอย่างหนักอยู่ ต้องเรียนร้องเพลงเพิ่มเติม ผมพูดตรงๆ เลยนะ ว่าสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่ตอนนี้มันคือ The Beginning มากๆ ก็อย่างที่บอกไว้ว่าเป้าหมายคือการทำให้คนมองว่าเราเป็นศิลปินคนหนึ่ง อัลบั้มนี้อาจจะยังไม่ใช่งานที่สมบูรณ์ แต่มันอาจจะไม่ต้องสมบูรณ์ก็ได้ในแง่ของศิลปะ ความรู้สึกเหมือนทุกคนกำลังจะได้ดูการบ้านชิ้นสำคัญ ที่ผมเพิ่งเริ่มลงมือทำเองจริงๆ เป็นครั้งแรก


#CheezeLooker: เพลงของตน  

Tonhon: ยังคงเป็น Alternative Pop ซึ่งคนที่ฟังครั้งแรกอาจจะยังไม่ค่อยเก็ทเท่าไหร่ เพราะสิ่งที่ทุกคนได้ฟังนั้น มันเป็นแค่จิ๊กซอว์ตัวแรกเท่านั้น ต้องรอดูภาพใหญ่ไปพร้อมๆ กันครับ อัลบั้มนี้เป็นผลงานที่ผมตั้งใจและทุ่มเทกับมันมากๆ


#CheezeLooker: อยากบอกอะไรกับคนที่กำลังเฝ้าดู 'การเติบโตของตน' ในทุกย่างก้าวชีวิตอยู่

Tonhon: อยากให้ทุกคนติดตามดูต่อไป...และขอให้ชอบในสิ่งที่ผมเป็น :)

.

.

.

"พี่ป๊อด -  ธนชัย อุชชิน"
@modernpod

ศิลปินในตำนานที่ทำงานทั้งดนตรีและศิลปะ การวาดรูปสำหรับผู้ชายคนนี้ เปรียบเสมือนการระบายออกของความรู้สึก ส่วนเสียงเพลงก็เป็นชิ้นงานสร้างสรรค์ที่ชีวิตขาดไม่ได้ ความเป็นตัวตนของเค้าคือของแท้ Rare Item ที่หาซ้ำที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว…วันนี้พี่ป๊อดไม่ได้มาเจอเราในฐานะศิลปิน แต่มาในบทบาทใหม่ ‘Art Director’ ครั้งแรก ให้กับศิลปินรุ่นน้องที่มีเขาเป็นแรงบันดาลใจมาอย่างยาวนาน!  

 

#CheezeLooker: การร่วมงานกับศิลปินรุ่นใหม่ที่ต่างขั้ว ต่างเจเนอเรชั่น

ModernPod: จริงๆ ผมกับน้องตนมีความผูกพันกันมานานมาก เราน่าจะโคจรมาเจอกันอยู่เป็นระยะๆ ครั้งแรกที่เจอ เป็นการทำงานร่วมกันตอนถ่ายภาพยนตร์เรื่อง "Suck Seed ห่วยขั้นเทพ" ตอนนั้นเค้าบอกว่าผมเคยถ่ายรูปกับพี่ป๊อดมาแล้วตอนเด็กๆ คือตอนที่ถ่ายก็เด็กแล้วนะ มีเด็กกว่านั้นอีก! ก็เลยมีความรู้สึกเชื่อมโยง จนกระทั่งเห็นตนเค้าเติบโตมาเป็นนักแสดงมืออาชีพ เป็นนักเรียนดนตรี เราก็รู้สึกประทับใจนะ เฮ้ย! น้องคนนี้เป็นเด็กมีของ…

ซึ่ง Suck Seed มันก็เป็นหนังที่พูดถึงเรื่องดนตรี แล้วตัวเค้าก็ดันมีแพสชั่นในด้านดนตรีด้วย จนกระทั่งเห็นความเคลื่อนไหวของการออกอัลบั้ม ทำวง "mints" ล่าสุดที่เค้า DM มาหาผม เค้าก็เล่าให้ฟังถึงโปรเจกต์ Solo อยากให้พี่ป๊อดมาทำภาพดรอว์อิ้งลงบนปกหน่อย เราก็รู้สึกว่า โอเค มาสนุกกัน ถามเค้าว่าเพลงเป็นยังไง ไอเดียเป็นยังไง เอามาเล่าให้ฟังหน่อย เพราะว่าจะได้ดูว่าเราลิงค์กับเค้ามั้ย วันนั้นเค้าก็มาพร้อม Laptop หนึ่งตัว เนิร์ดๆ เลย พรีเซนต์ทุกอย่างด้วยตัวเอง เหมือนเค้าคุยกับตัวเองมาแล้ว ผมมองว่าเด็กคนนี้มีความมุ่งมั่นตั้งใจ รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ซึ่งพอมานั่งคุยกันแล้วมันลิ้งค์มาก

#CheezeLooker: ตนบอกทุกสื่อว่าเค้ามีพี่ป๊อดเป็นแรงบันดาลใจมาอย่างยาวนานด้วย

ModernPod: ก็รู้สึกดีใจมาก ดีใจที่มีน้องๆ เจเนอเรชั่นใหม่ติดตามผลงานของเราอยู่ ตนบอกว่าพ่อเป็น FC ด้วย ก็เลยรู้สึกว่าเป็นความภาคภูมิใจที่ผลงานหรือตัวตนของเรา สามารถสื่อสารได้ทั้งเจนฯ พ่อและเจนฯ ลูก ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น มันน่าปลื้มนะ :)


#CheezeLooker: สิ่งที่ได้ค้นพบในตัว 'ตน' ระหว่างการทำงานด้วยกัน

ModernPod: ตอนได้คุยงานกันก็รู้สึกคลิกมาก ตอนแรกตนเรียกให้ผมมาทำงานอิลลัสเตรท พวกภาพดรอว์อิ้ง แต่พอคุยไอเดียกับเค้าแล้ว ผมเห็นภาพทั้งหมด ก็เลยเสนอตัวขอเป็นช่างภาพด้วย ค่อยๆ เพิ่มหน้าที่ จริงๆ เราชอบถ่ายรูป วาดรูป เราคุยกับน้องแล้วไอเดียมันพลุ่งพล่าน ค่อนข้างคลิกเลยนะ ที่ชอบที่สุดคือ Energy ของเค้า แล้วเราชอบพลังแบบนี้ ผมว่า น้องเค้าเป็นเด็กฉลาดมากนะ คุยกันรู้เรื่อง คำว่า 'ฉลาด' คือมีความเข้าใจโลกนะ มีความเป็นผู้ใหญ่ แต่คงความสดใสได้อยู่ เรารู้สึกว่า Energy แบบนี้มันมีเสน่ห์นะ บางครั้งเดี๋ยวนี้ เวลาทำงานกับคน ผมสนใจใน Energy  มากที่สุด...ผมว่าเค้าเป็นคนแคร์คน สิ่งนี้เป็นเสน่ห์ของมนุษย์นะ เค้าเป็นคนที่สนใจความรู้สึก และเราคิดว่ามนุษย์มันต้องอยู่ด้วยกันแบบนี้




#CheezeLooker: หน้าที่ของอาร์ทไดฯ สไตล์พี่ป๊อด

ModernPod: ตอนนี้จะเป็นเรื่องของอาร์ทเวิร์คมากกว่า ก็เริ่มตั้งแต่ภาพถ่ายว่าจะออกมาในโทนไหน แต่จริงๆ เราเป็นศิลปิน เราเข้าใจไง สำหรับผมนะ...ศิลปินต้องชอบงานของตัวเองที่สุด เราจะไม่ยัดเยียดว่า เฮ้ย! อันนี้มันดีเว่ย เชื่อพี่! ถึงมันจะดีแค่ไหนในความคิดเรา แต่เราต้องทำให้เค้าชอบด้วย เพราะเค้าต้องอยู่กับมันไปตลอดชีวิต มันเป็นปกอัลบั้มแรกของเขา คนที่ดีไซน์หรือเป็นอาร์ทไดฯ ทำชิ้นนี้เสร็จก็ไปอยู่ตรงอื่น ไปทำชิ้นต่อไป แต่เค้าอยู่กับมันตลอด เค้าเห็น เค้าควรต้องปลื้ม ต้องภูมิใจ

ส่วนตัว ผมพอใจกับงานชิ้นนี้มาก พอใจตั้งแต่ตอนที่วาดแล้ว ถ้าพูดถึง ก็เป็นการรับงานอาร์ทไดฯ ครั้งแรกในชีวิต แต่ว่าจริงๆ ประสบการณ์ส่วนตัว เราก็ทำให้ตัวเองมาตั้งแต่อัลบั้มแรกแล้ว ต้องประสานงานกับอาร์ทไดฯ แบบนี้ คือเราเป็น 'ต้นหน' มาก่อนน่ะ เหมือนเห็นตัวเอง :) แล้วพอรู้ว่าน้องมันชอบอันนี้ อยากลองอันนั้น เราเข้าใจ อยากให้มีภาพเพิ่ม เติมสติ๊กเกอร์นู่นนี่นั่น เอ้า…เติม! ลอง! ไอ้เราน่ะจบนานแล้ว แต่ว่าน้องเค้าอยากจะเห็น มันก็ต้องลองให้เห็น เราเข้าใจ เพราะเราก็เป็น

…ผมคิดว่าการทำงานศิลปะแบบนี้ บางทีต้องมีคนที่เรา Trust ไว้สักคน :)


#CheezeLooker: เป็นศิลปินที่ไม่เคยหยุดตัวเองไว้กับแนวทางเดิมๆ และครีเอทสิ่งใหม่ๆ ได้อย่างสม่ำเสมอ...

ModernPod: ผมคิดว่าความเบื่อง่ายเป็นแรงขับ เป็นคุณสมบัติที่ดีนะ มันทำให้เราอยากจะเปลี่ยนแปลง ริเริ่ม แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่ต้องมีคือความกล้าที่จะออกจาก Comfort Zone หรือกล้าที่จะหลุดพ้นจากตัวเอง สำหรับเรา...ชีวิตคือความสนุก เรามีชีวิตที่เหลืออยู่เพื่อความสนุก อย่างเช่นงานวันนี้เรามองว่ามันเป็นความสนุก มันทำให้เรามีชีวิตชีวา

...จริงๆ ผมสนใจความคิดของคนรุ่นใหม่นะ ถ้ามองในมุมของตัวเอง มันก็เห็นแค่แบบนี้ แต่ถ้าเราลองทำงานกับกลุ่มคนใหม่ๆ อย่างเช่นช่างภาพของโปรเจกต์นี้ ตนเค้าก็ต้องถามอาร์ทไดฯ ว่าจะใช้ใคร เราก็มีช่างภาพในใจ แต่ก็เป็นคนเดิมที่ใช้อยู่

แต่ในเมื่อตนเลือกมาแล้ว ก็เอาคนที่ตนชอบแหละ เพราะเราอยากจะ 'เห็น' ไง ถ้าเราทำเดิมๆ เราก็เห็นอย่างที่เราเห็นนั่นแหละ  




#CheezeLooker: พี่ป๊อดมีซิกเนเจอร์ชัดเจนเสมอในทุกยุค แล้วพี่ป๊อดในยุค 2023 นี้เป็นแบบไหน?

ModernPod: ช่วงหลังมานี้ ผมทำงานด้าน Visual Art มากชึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะเราก็ไม่ได้ Force ตัวเองว่าเป็นศิลปินแล้วต้องออกเพลง แต่เราเป็นศิลปินที่เลือกใช้การสื่อสารที่แตกต่างกัน ถ้า Output มันบอกว่าอยากออกมาทางภาพ ก็จะไม่ไปบีบมันว่ามึงต้องมาทำเพลง มึงเป็นนักร้อง! แต่เราจะปล่อยให้  Creativity มันหลั่งไหลออกมาอย่างอิสระ


#CheezeLooker: ผลงานส่วนตัวที่เราจะได้เห็นในเร็วๆ นี้?

ModernPod: ตอนนี้อยากทำสิ่งที่ทำค้างไว้มา 2 ปีแล้ว คือ 'Balloon Boy' อัลบั้ม 2 เป็น Side Project ที่ผมสร้าง Avatar ขึ้นมาหนึ่งตัว เพราะอยากรู้ว่าถ้าผมร้องเพลง แล้วไม่ใช้ตัวเองออกมา จะมีคนฟังมั้ย ซึ่งก็ไม่ค่อยมีคนฟัง (หัวเราะ)

#CheezeLooker: สิ่งที่อยากแชร์ถึงคนที่กำลังเดินอยู่ในเส้นทางของการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ในบ้านเรา

ModernPod: ผมคิดว่า 'ศิลปะ' ความคิดสร้างสรรค์มันอยู่ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว ทุกอย่างคือศิลปะหมด...นอนอย่างไรให้มีศิลปะ คุยอย่างไรให้มีศิลปะ ฯลฯ ศิลปะอยู่ในตัวเราตลอดทุกวินาทีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น ทุกคนคือครีเอเตอร์ คือศิลปิน แล้วยุคนี้เป็นยุคที่เปิดโอกาสให้ทุกคนเท่าเทียมกัน สามารถแชร์ตัวตนออกมา ซึ่งสิ่งที่เราแชร์ นอกจากมันจะตอบสนองจิตใจของเราแล้ว มันยังจุดประกายที่งดงามให้กับผู้คนรอบข้าง และมันจะทำให้โลกนี้ยิ่งสวยขึ้น :))  




#CheezeLooker: ถ้าย้อนกลับไปยุคแรกได้ พี่ป๊อดจะจัดเต็มให้สุดกว่าเดิมมั้ย?

ModernPod: ขนาดนั้นน่ะ ถูกต้อง ลงตัวแล้ว

#CheezeLooker: ...กับคำว่า 'ตำนาน' ที่ทุกคนมอบให้?

ModernPod: ผมยังไม่อยากรีบ ก็เข้าใจเลยแหละว่าสิ่งที่เราทำตอนนั้น เราก็ภูมิใจกับความสดใหม่ ความไฟแรงของเรา หรือ Attitude ที่มันพุ่งออกมา ณ วันนั้น ก็เพราะเราอยากเห็นความเปลี่ยนแปลง อยากจะนำเสนอทางเลือก

 
#CheezeLooker: ท้ายที่สุด อยากให้คนจดจำพี่ป๊อดในฐานะศิลปินอย่างไร

ModernPod: อยากให้คนจดจำว่าเราเป็นคนที่สร้างสรรค์ โดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ และยังไปต่อได้อีกเรื่อยๆ จริงๆ ชีวิตคนเรามีมิติที่หลากหลายมาก ขอแค่เราเปิดใจเท่านั้นเอง ข้อจำกัดทั้งหลายหรือเงื่อนไขที่ถูกวางเอาไว้ เราก็สามารถที่จะมีอิสระได้ตามหัวใจของเรา อย่าไปคาดหวังว่าความสำเร็จคืออะไร เพราะความสำเร็จมันอยู่ในความสนุกที่ได้ทำงาน

#CheezeLooker: Converse x Modernpod

ModernPod: สำหรับผมมันคือความผูกพันนะ Converse อยู่กับผมทุกยุค ทุกวันนี้มีติดบ้านเสมอ เพราะมันเป็นสิ่งที่แมทช์กับอารมณ์ของเราที่สุด อีกอย่างหนึ่งคือคำว่า 'Timeless' ไม่มีกาลเวลา สิ่งที่ผมเห็น Converse ทำมาอย่างต่อเนื่องคือความหลากหลาย เปิดกว้าง เค้ายังไปต่อและอยู่กับทุกเจเนอเรชั่นจริงๆ เรารู้สึกชื่นชมตรงนี้ :)

#CheezeLooker: ฝากผลงานที่ทุกคนจะได้เห็นทั้งในปัจจุบันและอนาคต

ModernPod: ไตรมาสนี้ จะเป็นไตรมาสที่วงดนตรีและศิลปินทั้งหลายมีทัวร์กันเยอะ ซึ่ง Moderndog ก็จะมีคอนเสิร์ตใหญ่ๆ หลายที่ น้องๆ เจเนอเรชั่นใหม่ที่อาจจะไม่ค่อยได้ดูพวกเรา ผมก็อยากจะชวนพวกเค้ามาเจอวงพี่ๆ กันบ้าง ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ :)))



Read More! >> WHAT THE DUCK เปิดตัวศิลปินคนล่าสุด "TONHON" พร้อมขโมยหัวใจไปกับซิงเกิลแรก "TIKTOK GIRL" ได้ศิลปินระดับตำนาน "MODERNPOD" นั่งแท่น ART DIRECTOR!

.
.
.

สามารถติดตามโปรเจกต์ดีๆ และข่าวสารอัพเดทจาก Converse กันต่อได้ที่ http://www.converse.co.th  Facebook: thaiconverse และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE Official Converse TH (@conversethai)

#CheezeLooker #Recommended #CreateNext #ConverseThailand #CheezeLookerxTonhonxModernPod