นอกจากเนื้อหาเพลงที่ต้องการถ่ายทอดได้อย่างไร้เหตุผลตามชื่อเพลงแล้ว ยังชวนให้เหล่าสาวกโยกตัวตามอีกด้วย ปลดปล่อยพลังด้านความแปลกใหม่ในสไตล์ที่เหนือความคาดหมายเช่นเคย เรียกว่างาน Costume ก็ไม่เคยยอมแพ้ สมกับการกลับมาของคุณแม่ Lady Gaga จริงๆ

 

            ระเบิดฉากต่อสู้ดั่งย้อนกลับเข้าสู่ช่วงปลายยุค 2000 อีกครั้ง

เปิดตัวด้วยเหล่านักเต้นที่แบ่งสีตามชนเผ่าและลุคชมพูของ Lady Gaga ที่เหมือนหลุดออกมาจากห้วงอวกาศ

 

เปิดฉากแรกด้วยลุคเอเลี่ยนที่ผสมผสานสไตล์ Punk อย่างเห็นได้ชัด ฟาดด้วยวัสดุหนังเงาสี Shocking Pink ประดับด้วยห่วงโซ่ต่างๆ โดยการออกแบบของ Laura Pulice จากแบรนด์ Vex ดีไซเนอร์ได้ปล่อยจินตนาการขั้นสุดอย่างไร้ขีดจำกัด พร้อมพูดว่า “That is why she is my favourite celebrity to design for. She will pretty much try anything!”

 

ชุดเกราะโลหะพร้อมก้าวเข้าสู่โหมดของสงครามการแย่งชิงอย่างเต็มรูปแบบ เหมือนเป็นอีกขั้นของความแปลกใหม่จากโลกอนาคต คล้ายมนุษย์ต่างดาวที่ผสมผสานเข้ากับแมลงประหลาด แต่กลับดูดึงดูดด้วยวัสดุที่พร้อมสะท้อนไปกับแสงแดด ซึ่งชุดนี้เป็นผลงานการออกแบบของ Laurel Dewitt ที่พยายามถ่ายทอดความเป็น Gaga ออกมาด้วยงานศิลปะที่บ่งบอกความเป็นตัวเองมากที่สุด

 

 

ยังคงร่วมงานกันอย่างต่อเนื่อง สำหรับแบรนด์ Kaimin ซึ่งในเอ็มวีนี้ได้ปล่อยชุด Leather Bolero กับ Corset สีชมพูเมทัลลิคไหล่ตั้ง ที่ดูเผินๆ ก็ทั้งน่ารักและเซ็กซี่ไปพร้อมๆ กัน แต่กลับซ่อนความคิดของ Gaga ที่พยายามจะบอกเล่าถึงความแข็งแกร่งของผู้หญิงออกมาได้อย่างมีเอกลักษณ์

 

นอกจากชุด Leather Bolero แล้วในส่วนของ Head Piece หรือหน้ากากสีปรอทที่ปกปิดใบหน้าเอาไว้ ก็ถูกออกแบบมาโดย Rinaldy Yunardi จากแบรนด์ Cinar Ezgi เพิ่มความล้ำสมัย ตีโจทย์โลกอนาคตได้อย่างแตกต่าง และน่าทึ่งมากๆ

 

 

ปิดท้ายด้วยเสื้อผ้าคอลเลคชั่น SS20 จากแบรนด์ Wiederhoeft ในชื่อคอนเซ็ปต์ ‘The Dragon’ โดยฝีมือการออกแบบของ Jackson Wiederhoeft มาในชุดรัดรูปผ้าตาข่ายคอเต่าและถุงเท้าสูงปักมือตั้งแต่หัวจรดเท้า ตัดกับแจ็คเก็ตหนังปักหมุดได้อย่างลงตัว เห็นภาพของความเป็น Punk ชัดเจนด้วยเทปกาวเขียนข้อความ 'Kindness Punk' ไว้ด้านหลัง

 

dazeddigital.com