3 แรงบันดาลใจที่จะทำให้เราอยากออกจากหน้าจอมือถือ แล้ว GO Walk สนุกกับโลกข้างนอก!

#SkechersTH #GOwalk5
ในยุคที่คนเราไม่ได้มีแค่ตัวเลือกเดียวในชีวิต หลายคนได้ทำอะไรตามที่ฝัน ในขณะที่หลายคนต้องต่อสู้กว่าจะได้มา คำพูดที่ว่า...ทุกอย่างไม่สายสำหรับการเริ่มต้น ยังคงคลาสสิคเสมอ ดูเหมือนจะไม่ยาก แต่กว่าจะเดินทางมาถึงวันนี้ก็ไม่ง่าย...
ไปพบกับ 3 แรงบันดาลใจ ที่จะทำให้พวกเราอยาก GO Walk ก้าวออกจาก Comfort Zone แล้วสนุกกับชีวิตที่เลือกเอง!


…………………………………………………………………………………………………………
บาส – ภาณุภัทร์ สุกัลยารักษ์
Occupation: Travel Blogger
เริ่มต้นจากบทบาทนักแสดงและศิลปินวง Pop Rock ขวัญใจวัยรุ่นอย่าง Better Weather...ปัจจุบัน ‘บาส’ – ภาณุภัทร์ สุกัลยารักษ์’ ใช้ชีวิตอย่างสนุกเต็มที่กับจังหวะชีวิตใหม่ เค้ามีธุรกิจเป็นของตัวเองหลายตัว รวมถึงการเป็นเจ้าของเพจรีวิวท่องเที่ยวในชื่อ Go Went Go: เที่ยวเว้นเที่ยว ซึ่งมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก เค้าเล่าเรื่องด้วยภาพถ่ายและสตอรี่ที่น่าติดตาม จนสามารถเป็นแรงบันดาลใจให้ Followers ได้ดี ซึ่งถ้าถามเราว่า...การเดินทางให้ความหมายอะไรกับชีวิต จังหวะนี้คงไม่มีใครตอบได้ดีเท่าเค้าอีกแล้ว!


ช่วยอัพเดทพวกเราสั้นๆ ที ว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่บ้าง...

“ตอนนี้ทำหลายอย่างมากครับ มีทั้งธุรกิจส่วนตัวที่ทำกับเพื่อน เป็น Pub & Restaurant แล้วก็เพจท่องเที่ยวและการเดินทางชื่อ ‘Go Went Go : เที่ยวเว้นเที่ยว’ ส่วนงานดนตรีก็มีเล่นบ้าง เร็วๆ นี้ก็จะมีคอนเสิร์ตใหญ่กับวง Better Weather ที่จะกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง”

เรามองว่าบาสประสบความสำเร็จในสิ่งที่กำลังทำอยู่มากๆ แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ก็คงไม่ได้ง่าย คุณผ่านอุปสรรคต่างๆ มาได้ด้วยวิธีไหน?
“อย่างแรกคือ...ต้องเข้าใจก่อนว่าไม่มีใครที่ทำอะไรแล้วไม่เจออุปสรรค ไม่มีใครที่ไม่เจอปัญหา ผมชอบประโยคหนึ่งในหนังสือที่เคยอ่านมานานมากแล้ว เค้าบอกว่า ‘ปัญหาจะเป็นปัญหา ก็ต่อเมื่อเรามองมันเป็นปัญหา’ คือคำนี้มันทำให้เราเข้าใจเลยว่า...ถ้าเราไม่ได้มองว่า ‘ปัญหา’ เป็นตัวปัญหา แต่มองว่าเป็นเรื่องๆ หนึ่งที่ต้องผ่านไปอยู่แล้ว มันจะทำให้เรามีพลังในการทำสิ่งๆ นั้นต่อจนถึงจุดที่ประสบความสำเร็จ”



สิ่งที่คุณได้เรียนรู้ หรือลองผิดลองถูกมาตลอดหลายปี...ชีวิตมันสอนอะไรกับคุณบ้าง กว่าจะได้เจอจังหวะที่ใช่?
“ผมว่า ความสำเร็จในชีวิต ทุกคนทำได้หมด ผมเชื่ออย่างนั้นก่อน...แต่ก่อนอื่นทุกคนต้องเชื่อก่อนว่า ความสำเร็จในแต่ละคนมันไม่เหมือนกันแน่นอน มันเหมือนกับการวิ่งมาราธอน ไม่เหมือนวิ่งแข่ง...ที่มีอันดับหนึ่ง อันดับสอง ถ้าคุณวิ่งเข้าไม่ทัน คุณก็แพ้ แต่การวิ่งมาราธอน มันมีเสียงปรบมือให้ทุกคนที่เข้าเส้นชัย ไม่มีคนที่ล้มเหลว มีแต่คนที่ล้มเลิก แต่ที่คนส่วนใหญ่ไปไม่ถึงจุดที่อยากได้ นั่นอาจเป็นเพราะเค้าไปผิดทางมาตั้งแต่แรก”



คิดว่าการเดินทางให้ความหมายอะไรกับชีวิต (คำถามนี้คงไม่มีใครตอบได้ดีเท่าคุณอีกแล้ว!)
“ผมคิดว่า...มันทำให้เรารู้จักและเข้าใจตัวเองมากขึ้น เพราะเวลาที่ได้อยู่ในสถานการณ์ต่างๆ ในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป มันทำให้เราเห็นอะไรบางอย่างในตัวเอง ถ้าเรารู้จักสังเกตนะ เช่น บางครั้งเราอาจจะไม่เคยรู้ตัวเองเลยว่า เราชอบการที่เราอยู่ใต้น้ำ เหมือนเรามีสมาธิ ได้คิด ได้จดจ้อง ได้มองบางสิ่งบางอย่าง หรือบางทีเราก็ชอบฟีลตอนที่เราลำบาก เพราะรู้สึกว่ามันมีพลังจัง แทนที่จะอยากนอนอยู่บ้านเฉยๆ แต่เรากลับชอบภาวะอย่างนั้น...

“พอเราได้รู้จักตัวเองมากขึ้น ก็ทำให้เราเข้าใจคนอื่นมากขึ้นด้วย เพราะจริงๆ แล้ว ถ้าเรายังไม่เข้าใจตัวเองเลย มันก็ไม่มีทาง ที่เราจะไปเข้าใจคนอื่นได้”



จังหวะชีวิตของบาสช่วงนี้ เรียกได้ว่า ‘ลงตัว’ แล้วหรือยัง?
“มันก็ลงตัวมากกว่าเมื่อก่อนทั้งหมด แต่ถามว่ามันได้อย่างที่ต้องการ 100% มั้ย...ก็ยัง มันมีหลายๆ อย่างที่เรายังต้องบาลานซ์อยู่ระหว่างงานที่ต้องทำกับสิ่งที่เราอยากทำ อย่างเช่นการเป็น Blogger ก็ถือว่าประสบความสำเร็จดีมาก มีงานเข้ามาเยอะมาก แต่ก็นั่นเหละ ในทางกลับกัน...พองานเข้ามาเยอะ เราก็ได้ทำสิ่งที่อยากทำน้อยลง ทำยังไงที่เราจะรับงานได้น้อยลง แต่งานมีคุณภาพมากขึ้น ในขณะที่ความสำเร็จหรือรายได้ของเรายังดีขึ้นด้วย อันนี้มันเป็นสิ่งที่เราต้องจัดการใหม่”

อยากให้พูดถึงโปรเจกต์ในอนาคตของตัวเอง และสิ่งที่บรรดาแฟนคลับจะได้เห็น
“อยากทำเพจ อยากทำรายการอื่น ๆ ใน Youtube ที่อาจจะพูดถึงมุมอื่นๆ หรืออะไรอื่นๆ ที่มันน่าสนใจ หรือเริ่มไปทำเบื้องหลังมากขึ้น โดยการผลักดันคนอื่นมาข้างหน้าแทน อีกอย่างคืออยากทำเพลงกับเพื่อนๆ ไม่ต้องทำกับค่ายจริงจัง เรียกได้ว่าเป็นงานอดิเรกที่เราอยากทำจริงๆ”



การค้นหาตัวเองให้เจอในมุมมองของคุณ
“ผมว่าปัญหาที่คนส่วนมากเป็นคือชอบคิด แต่ไม่ได้ลงมือทำ เพราะเค้าต้องการความพร้อมมากมายเหลือเกิน ผมก็เลยรู้สึกว่า ที่เรามาถึงตรงนี้ได้ เกิดมาจากการที่เรารู้ก่อนว่าเราอยากทำอะไร และถ้าเราอยากได้อะไรสักอย่าง ซึ่งมี ‘ความพร้อม’ เป็นหนึ่งในปัจจัยนั้น เราก็แค่สร้างความพร้อมขึ้นมา บางอย่างไม่ต้องรอ ลงมือทำไปเลยเดี๋ยวมันจะพร้อมเอง เพราะสุดท้ายเชื่อมั้ยว่า...ต่อให้มันพร้อมแค่ไหน ในวันที่เริ่มต้นทำ มันก็ต้องลองผิดลองถูก มันก็ต้องล้มเหลว ต้องเจออะไรที่ไม่ได้เป็นเหมือนที่คิดอยู่ดี เพราะฉะนั้นถ้ามันต้องเจออยู่แล้ว จะเจอช้า เจอเร็ว ทำไมไม่เจอเร็วไปเลยล่ะ!...

“ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้จริงๆ ว่า...“หนึ่ง – ต้องรู้ก่อนว่าเราชอบอะไร สอง – คิดแล้วต้องทำเลย สาม - เข้าใจความล้มเหลวผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นระหว่างทาง สี่ – เมื่อเราทำสำเร็จ ให้ทบทวนตัวเองว่าตอนนี้เราเดินทางมาถึงจุดไหนแล้ว และวางเป้าหมายต่อไปเสมอ”

…………………………………………………………………………………………………………

จันจิ - จันจิรา จันทร์พิทักษ์ชัย
Occupation: Actress
เรารู้จักเธอจากการเป็นแดนเซอร์, นางแบบ, นักแสดง ก่อนจะก้าวเข้าสู่วงการเพลงอย่างเป็นทางการด้วยการเป็นหนึ่งในสมาชิกของเกิร์ลกรุ๊ปวง GAIA (ไกอา) เรียกได้ว่า ชีวิตเดินมาตามสเต็ปที่ควรจะเป็น ซึ่งจันจิคือตัวแทนของผู้หญิงยุคใหม่ที่มีทั้งความสามารถและความมั่นใจ แถมยังดูแลตัวเองได้ดีมากๆ จนถึงปัจจุบัน แต่กว่าจะเดินมาถึงจุดนี้ ก็ไม่ใช่ง่ายๆ เพราะในวงการบันเทิง การแข่งกับคนอื่นว่ายากแล้ว แข่งกับตัวเองนี่สิยากกว่า จันจิมีวิธีการคิดแบบไหน เส้นทางเดินของเธอเป็นยังไง เราจะมาเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน...


ช่วยอัพเดทพวกเราสั้นๆ ที ว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่บ้าง...

“จันจิเพิ่งเรียนจบปริญญาโทด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย (Anti-aging) ค่ะ ภูมิใจมากๆ เพราะเป็นวิชาที่จันจิไม่ถนัดเลย มันคือวิทยาศาสตร์ แล้วจันจิเรียนนิเทศศาสตร์มา ก็เลยรู้สึกภูมิใจมากหน่อย...นอกจากนั้นก็ทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ, เป็นพิธีกรรายการ ‘Pet Lover by Jerhigh’, ทำรายการใน Youtube แล้วก็ดูแล ‘Leila Amulets’ กิจการของที่บ้านค่ะ”

เรามองว่าจันจิคือตัวแทนของผู้หญิงยุคใหม่ที่มีทั้งความสามารถและความมั่นใจ แถมยังดูแลตัวเองได้ดีมากๆ จนเป็นแรงบันดาลใจดีๆ ให้กับแฟนๆ ที่ติดตามคุณอยู่ คุณมีเคล็ดลับอะไรที่จะแชร์ให้พวกเราฟังบ้าง

“อยากให้ทุกคนคิดว่า ‘โอกาส’ คือสิ่งที่ควรคว้าไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ ถนัดหรือไม่ถนัดก็ตาม หลังจากนั้นคือการลงมือทำ เพื่อที่จะไปถึงจุดหมายที่เราต้องการ แล้วถ้ามีวันไหนที่ท้อแท้หรือทำไม่ได้ ก็อย่าทิ้งๆ ขว้างๆ มัน อยากให้รับผิดชอบโอกาสนั้นให้ดีที่สุดค่ะ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าโอกาสที่เราได้รับมานั้น มันจะต่อยอดไปสู่เรื่องอะไรในอนาคต”



ในวงการบันเทิง การแข่งกับคนอื่นว่ายากแล้ว แข่งกับตัวเองนี่สิยากกว่า สิ่งที่ได้เรียนรู้ในวงการนี้ มันสอนอะไรกับคุณ?
“วงการนี้สอนเราให้เรียนรู้ที่จะปรับตัว มีความเป็นกลาง ไม่ต้องคิดบวกหรือคิดลบจนเกินไป แล้วก็สอนเรื่องการวางตัว เพราะเมื่อก่อนจันจิเป็นแค่คนเบื้องหลัง พอมีโอกาสได้ทำงานเบื้องหน้า เราก็ตกใจกับการเจอกับกระแสในแง่ลบบ้าง เจอการแอนตี้บ้าง มันทำให้เราเครียดแล้วก็ท้อมากๆ เลย เคยคิดว่าไม่มีความสุขเลยกับการอยู่วงการนี้ แต่พอเวลาผ่านไปมันก็ทำให้เราเข้าใจเรื่องต่างๆ มากขึ้น เรียนรู้และพยายามเข้าใจในตัวคนอื่นที่คิดต่างกับเรา แล้วก็พยายามทำตัวให้ดี รู้ตัวอยู่เสมอว่ากำลังทำอะไรอยู่ เพราะว่าสิ่งที่จันจิทำ ณ ปัจจุบันนี้ก็คือทำเพื่อตัวเองและครอบครัว เราไม่ได้เงินมาฟรีๆ เพราะเราใช้ทั้งกำลังกายและกำลังใจในการทำงาน”




Life Goals ของจันจิ คือ?
“อยากมีสุขภาพที่ดีค่ะ อยากแข็งแรง อยากดูแลคนที่บ้านได้ บั้นปลายก็อยากจะประสบความสำเร็จมีอาชีพการงานที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการแสดงหรือว่าธุรกิจส่วนตัวในเรื่องของอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ เพราะเราเรียนมาทางด้านนี้ รู้สึกว่ามันมีประโยชน์กับมนุษยชาติจริงๆ เพราะทุกคนควรจะมีสุขภาพที่ดี”



อยากให้พูดถึงโปรเจกต์ในอนาคตของตัวเอง และสิ่งที่บรรดาแฟนคลับจะได้เห็น
“อนาคตก็จะได้เห็นเรื่อยๆ ค่ะ ในเรื่องของการแสดง แล้วก็ในเรื่องของธุรกิจ จันจิจะทำให้ชัดมากยิ่งขึ้น เพราะยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แล้วก็จะแชร์สิ่งดีๆ ของตัวเองเกี่ยวกับเรื่องที่จันจิเรียนมา ผ่านช่องทางโซเชียลให้ทุกคนได้เห็นกันค่ะ ส่วนเรื่องเต้นยังไงก็จะเต้นเรื่อยๆ อยู่แล้ว ก็ฝากติดตามชมด้วยนะคะใน Instagram @junji_junp และทาง Youtube Channel: JUNJI from the Moon ค่ะ”



วิธีการค้นหาตัวเองให้เจอในมุมมองของจันจิ
“ก็อย่างที่บอกค่ะ...ลองทำทุกสิ่งทุกอย่าง ลองทำอะไรที่ไม่เคยทำ โดยไม่มีคำว่ากลัว แล้วคุณจะค้นพบว่า เราทำอะไรได้มากกว่าที่เราคิด...อย่างจันจิก็เพิ่งมารู้ตัวว่าชอบในเรื่องของสุขภาพ ชอบในเรื่องของการดูแลตัวเอง เราก็เลยรวบรวมความกล้า ไปลองเรียนปริญญาโทในเรื่องเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไกลตัวมาก แต่สุดท้ายก็ทำได้”

…………………………………………………………………………………………………………

แอ๊ด - พีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์
Occupation: Photographer
เขาคือช่างภาพสายสตรีทแถวหน้าของบ้านเราที่มีผลงานน่าจับตา งานของเขาคือการเก็บบันทึกสิ่งตรงหน้าด้วยกล้องถ่ายรูปคู่ใจ ซึ่งในภาพถ่ายเหล่านั้นเต็มไปด้วยประสบการณ์ ความทรงจำ และความผูกพันมากมาย ที่ส่งต่อมายังผู้รับสาส์นได้ชัดเจนในแบบที่สามารถสร้างความสั่นสะเทือนให้เราได้ไม่น้อยเลย จังหวะในชีวิตของเค้า จะเหมือนการรอจังหวะให้ดีที่สุดแล้วค่อยกดชัตเตอร์หรือไม่ เรามาหาคำตอบไปด้วยกัน



ช่วยอัพเดทหน่อยว่าตอนนี้คุณกำลังทำอะไรอยู่บ้าง...
“ทำงานถ่ายภาพเบื้องหน้า-เบื้องหลัง, เดินทาง และกำลังเขียนหนังสือครับ”

เรามองว่าคุณประสบความสำเร็จในสิ่งที่กำลังทำอยู่มากๆ แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ก็คงไม่ได้ง่าย คุณผ่านอุปสรรคต่างๆ มาได้ด้วยวิธีคิดแบบไหน?
“ขอบคุณมากครับ เรามองว่าอุปสรรคเหมือนบทเรียน...เรียนรู้จากข้อผิดพลาดที่ผ่านเข้ามาในอดีตของเราเอง และเตรียมรับมือกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต”



ใครๆ ก็บอกว่าภาพถ่ายของ Add Candid ดูมีชีวิต เราอยากรู้ว่า ภาพๆ หนึ่ง ที่คุณอยากกดชัตเตอร์ ต้องเป็นภาพแบบไหน หรือต้องอยู่ในองค์ประกอบแบบใด?
“ภาพถ่ายของผมเป็นเหมือนการบันทึกความทรงจำ ณ เหตุการณ์นั้นๆ องค์ประกอบที่ว่านั้นคือเรื่องราวที่เราอยากบันทึก ประกอบด้วย Subject ไม่ก็ Object ในภาพ ควรเป็นสิ่งที่เราสนใจและอยากบันทึกเผื่อถ่ายทอดเรื่องราว”



สิ่งที่แอ๊ดได้เรียนรู้ หรือลองผิดลองถูกมาตลอดหลายปี...ชีวิตมันสอนอะไรกับแอ๊ดบ้าง กว่าจะได้เจอจังหวะที่ใช่?
“ชีวิตสอนให้เราได้เรียนรู้...ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละปี จะค่อยๆ ขัดเกลาว่าเราควรถ่ายทอดผลงานออกมาในรูปแบบของตัวเองอย่างไร และเราก็ยังต้องเรียนรู้มันต่อไป”

คิดว่าการถ่ายรูปให้ความหมายอะไรกับชีวิต
“การถ่ายรูป...สำหรับเราเป็นการบันทึกเรื่องราวส่วนตัว ไปจนถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ไม่วันใดก็วันหนึ่ง”



จังหวะชีวิตช่วงนี้ เรียกได้ว่า ‘ลงตัว’ แล้วหรือยัง?
“ขอเรียกว่าเป็นจังหวะที่กำลังดี ดีกว่าครับ ที่ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว การเอ็นดูจากผู้ใหญ่ ความจริงใจจากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ”

Life Goals ของ #AddCandid?
“อยากให้ผลงานเข้าไปอยู่ในมิวเซียมระดับโลก”



อยากให้พูดถึงโปรเจกต์ในอนาคตของตัวเอง และสิ่งที่บรรดา Followers จะได้เห็น
“หนังสือ Pocketbook, Photo book และการแสดงงานภาพถ่ายครับ”

วิธีการค้นหาตัวเองให้เจอในมุมมองของคุณ
“การทดลองทำ”

………………………………………………………………………………………………………….




#CheezeLooker #SkechersTH #GOwalk5